นพ. เอกชัย แดงรุ่งโรจน์
กุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
เลือดกำเดาไหลเป็นสิ่งที่พบบ่อยในเด็กและเกิดขึ้นได้จากการเริ่มแคะ แกะ เกาบริเวณจมูกอย่างรุนแรง ทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุจมูกแตกและเลือดไหล โดยเกิดมากในช่วงฤดูหนาวหรือในช่วงอากาศแห้ง
เลือดกำเกาไหลอาจเป็นอาการของโรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ปกครองควรทราบว่าเมื่อใดที่ลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหลมากจนอาจอันตรายและควรพาไปพบแพทย์
บีบปีกจมูกของลูกให้แน่นอย่างน้อย 5 นาทีเพื่อห้ามเลือดและให้ลูกหายใจทางปาก
ให้ลูกนั่งตัวเอียงไปข้างหน้า และให้ก้มศีรษะลงเล็กน้อยให้เลือดไหลออกทางจมูกแทนไหลลงคอ หากมีเลือดไหลลงคอให้บ้วนใส่ภาชนะ เพื่อประเมินจำนวนเลือดและป้องกันการอาเจียนจากการกลืนเลือดมากเกินไป
กรณีเลือดหยุดไหล ควรให้ลูกนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงและประคบเย็นบริเวณจมูก
หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง แคะจมูก การกระแทกบริเวณจมูกหรือการวิ่งเล่นใน 24 – 48 ชั่วโมงหลังเลือดหยุดไหล
หากพบว่าเลือดยังไม่หยุดไหลมากกว่า 30 นาที ให้รีบพาลูกพบกุมารแพทย์
เลือดกำเดาไหลเกิดกับเด็กบ่อย แต่มักไม่รุนแรง โดยเลือดมักหยุดภายใน 5-10 นาที หลังบีบจมูกลูก ดังนั้นควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด มีเลือดกำเดาไหลมาก อาจอันตรายและควรพบแพทย์
ธันยธร ธีรนรเศรษฐ. (ม.ป.ป). เลือดกำเดาไหล. สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2568,
จาก https://tmc.or.th/pdf/tmc_knowlege-167.pdf
Joseph Haddad Jr and Sonam N. Dodhia Epistaxis. Nelson's Textbook of Pediatrics, 20th Edition,
ELSEVIER, Inc., New York
David E. Tunkel (2020). Clinical Practice Guideline: Nosebleed (Epistaxis). Otolaryngology Head Neck
Surgery. Vol. 162 (IS) S1-S38
กุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ