Messenger

ศูนย์รักษาเนื้องอกในสมอง

รายชื่อศูนย์การแพทย์หรือคลินิกของโรงพยาบาลรามคำแหง

ศูนย์รักษาเนื้องอกในสมอง

 

 

 

 

" ผสมผสานวิทยาการด้านการผ่าตัดเข้ากับเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัดรักษาเนื้องอกในสมอง เพื่อช่วยให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง "

 

 

แนวทางการรักษาเนื้องอกในสมอง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

  • เนื้องอกในสมองกลุ่มที่ยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัดสามารถรักษาด้วยวิธีการเฝ้าติดตามอาการทางคลินิค และ MRI
  • กลุ่มที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือ ฉายแสง

 

เทคโนโลยีช่วยวินิจฉัยและรักษา

1.  กล้องผ่าตัดกำลังขยายสูง Microscope 3D

     กล้องผ่าตัดกำลังขยายสูง Microscope 3D เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการผ่าตัดเนื้องอกในสมองด้วยเทคนิคจุลศัลยกรรม การผ่าตัดผ่านกล้องขยาย 3 มิติ ด้วยกำลังขยายสูงถึง 39 เท่า ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นภาพขณะผ่าตัดได้ชัดมาก โดยที่ภาพที่ได้จะมีทั้งความกว้าง ความยาว และความลึก ทำให้การผ่าตัดเนื้องอกที่อยู่ในบริเวณสำคัญที่ล้อมรอบไปด้วยหลอดเลือด และเส้นประสาทขนาดเล็ก และลดอัตราการบาดเจ็บต่ออวัยวะสำคัญขนาดเล็กโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

ram hospital
 

นัดพบแพทย์

google map to RAM hospital

 

 

2.  กล้องส่องผ่าตัด (Endoscopic neurosurgery)

     การใช้กล้องชนิดนี้จะคล้ายๆกันกับที่ใช้ผ่าตัดถุงน้ำดีหรือไส้ติ่ง ภาพที่ได้จะเป็นภาพกำลังขยายสูง ลักษณะ 2D ในที่การผ่าตัดเนื้องอกในสมองบางชนิด เช่น เนื้องอกของต่อมใต้สมอง สามารถใช้กล้องส่องผ่าตัดชนิดนี้สอดผ่านรูจมูกเพื่อช่วยในการเอาเนื้องอกสมองโดยออกได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงมีดผ่าตัดที่ผิวหนังและไม่ต้องเปิดกะโหลกศีรษะ ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บต่อเนื้อสมอง ช่วยทำให้การผ่าตัดเนื้องอกในบริเวณฐานของกระโหลกศีรษะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

3.  เครื่องกำจัดเนื้องอกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Cavitron ultrasonic aspiration : CUSA)

     เครื่องมือนี้มีส่วนสำคัญมากในการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง โดยที่เครื่องนี้จะส่งคลื่นเสียงความที่สูงอัลตร้าโซนิค ไปทำลายเซลล์เนื้องอกให้แตกสลายเป็นชิ้นเล็ก ก่อนที่จะมีการนำเนื้องอกออกผ่านทางเครื่องดูดขนาดเล็ก ทำให้การเอาเนื้องอกออกมีความปลอดภัยมากขึ้น ลดความบอบช้ำของเนื้อสมอง และอวัยวะข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

4.  อุปกรณ์การผ่าตัดแบบจุลศัลยกรรม

     เนื่องจากส่วนใหญ่ของการผ่าตัดเนื้องอกจำเป็นต้องใช้กล้องขยายเพื่อให้ได้ภาพขยายที่ชัดเจน ทำให้อุปกรณ์การผ่าตัดจึงต้องมีขนาดเล็กลงมากด้วย เพื่อให้ได้ความละเอียดขณะผ่าตัดถึงระดับมิลลิเมตร

 

5.  เครื่อง Neuro-Navigator

     อุปกรณ์นำทางช่วยให้แพทย์ทราบตำแหน่งของเนื้องอกในสมองรวมถึงอวัยวะสำคัญที่อยู่บริเวณที่ผ่าตัดได้ ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนจากการผ่าตัดผิดตำแหน่ง

 

 

 

 

6.  เทคโนโลยีพิเศษจากเครื่อง MRI เช่น DTI fiber tracking

     เทคโนโลยีพิเศษจากเครื่อง MRI จะช่วยให้เห็นตำแหน่งเส้นใยประสาทสำคัญภายในสมองเทียบกับตัวเนื้องอกได้ เพราะ เนื้องอกในสมองบางชนิดจะมีการลุกลามเข้าไปในเส้นใยประสาทได้ ดังนั้นการนำเนื้องอกที่ปนอยู่กับเส้นใยประสาทออกจะทำให้มีความพิการเกิดขึ้นได้ ดังนั้นอุปกรณ์นี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนตัดเอาเนื้องอกในสมองออกได้มากที่สุดโดยที่ยังคงการทำงานของสมองได้ ลดโอกาสพิการหลังการผ่าตัด หรือ MRI SPECTROSCOPY ที่ช่วยให้แยกบริเวณที่สงสัยว่า เป็นเนื้องอก หรือ โรคอื่น เช่น ภาวะติดเชื้อ หรือ ภาวะหลังฉายแสง ทำให้บอกแนวทางในการรักษาได้อย่างถูกต้องมากขึ้น

 

 

ศูนย์รักษาเนื้องอกในสมองศูนย์รักษาเนื้องอกในสมอง

 

 

7.  อุปกรณ์เฝ้าดูการทำงานของระบบประสาทขณะผ่าตัด (Intra operative monitoring)

     อุปกรณ์เฝ้าดูการทำงานของระบบประสาทขณะผ่าตัด ใช้สำหรับติดตามการทำงานของระบบประสาทในระหว่างการผ่าตัดขณะที่ผู้ป่วยหลับหรือตื่น โดยใช้เทคนิคทางด้านประสาทสรีรวิทยาซึ่งเกิดจากการตอบสนองของระบบประสาททางด้านไฟฟ้า ทำให้แพทย์สามารถประเมินการทำงานของระบบประสาทและลดความเสี่ยงเรื่องการบาดเจ็บต่อระบบประสาทขณะผ่าตัดได้ เทคนิคดังกล่าวถือเป็นมาตรฐานที่สำคัญในการผ่าตัดผู้ป่วยเนื้องอกในสมองในปัจจุบัน

 

คำแนะนำจากแพทย์

     หลังการผ่าตัดเนื้องอกออกไปแล้วจะมีส่งตรวจทางเซลล์วิทยาทุกราย เพื่อดูชนิดของเนื้องอก รวมถึงชนิดของโปรตีนที่แตกต่างกันออกไปในเนื้องอกที่แม้จะเป็นชนิดเดียวกันหากมองจากเซลล์วิทยา เพื่อที่จะแพทย์จะประเมินการพยากรณ์ของโรคได้อย่างแม่นยำ  นอกจากนี้หลังจากทราบชนิดของเนื้องอกแล้วบางชนิดอาจจำเป็นต้องฉายรังสี หรือให้ยาเคมีบำบัดหลังจากการผ่าตัดเพื่อให้การรักษาเนื้องอกในสมองได้อย่างสมบูรณ์

 


 

ram hospital
 

นัดพบแพทย์

google map to RAM hospital

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณปัทมา คำสอน

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

ปวดหัวอยู่ประมาณ 3-4 วัน

 

“ก็ไปหาคุณหมอท่านก็บอกว่าน่าจะเป็นไมเกรนระยะเริ่มต้น ก็ให้ยามาทานแล้วก็ฉีดยา มันไม่หายก็ หมอก็ขอสแกนผลออกมาก็ไม่มีอะไร วันรุ่งขึ้นกินไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว แฟนก็เลยหามกลับไปโรงพยาบาล

 

คุณหมอก็เอาผล CT มาดูใหม่ แล้วก็เห็นเลยว่ามีอะไรบางอย่างก็โดนแอดมิดไปเลย คุณหมอก็แจ้งกลางดึกอีกวันหนึ่งอาจจะเป็นเนื้องอกนะ

 

แต่มันอยู่ตรงต่อมใต้สมอง เราก็ถามเรื่องการรักษา หมอบอกง่ายสุดคือผ่าตัดส่องกล้อง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องแบบเปิดสมอง พอเอาออกไปแล้วก็คือจบ ตอนนี้ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ เมื่อก่อนเป็นคนป่วยง่าย ตั้งแต่ผ่าตัดก็ไม่ป่วยอีกเลย”

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณสุชาติ ตรีนพรัตน์

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

“ผมก็ออกกำลังกายปกติเนี่ยล่ะครับ ออกกำลังกายสักพักใหญ่ๆ แล้วผมก็เดินโงนเงนๆ เหมือนกับบ้านหมุน”

 

ผมก็ไม่เอะใจอะไรเลย วัน 2 วันผมก็ไม่ซีเรียสไม่คิดอะไรมาก แล้วทีนี้ผมก็นอนหลับเหมือนจะมีอาการบ้านหมุน นอนเหมือนกับคนน้ำในหูไม่เท่ากันทำนองนั้นครับ ลืมตาไม่ได้เลยมันก็เหมือนหมุนติ้วๆ เลย

 

ผมก็เลยเรียก 1669 ขอไป รพ.รามคำแหง แอดมิดดีกว่า เราอยากเช็คให้แน่นอน ไปหาหมอภูริปัณย์แล้วเขาก็เช็คเรื่องประสาทตา ประสาทหู พอทำ MRI ถึงจะรู้ไงไปเจอเนื้องอก หมอก็แนะนำว่าต้องผ่าด่วน ผมก็เลยตัดสินใจผ่าเลยดีกว่า

 

คุยกับหมอได้ผมไม่วิตกไอ้เรื่องว่าผ่าแล้วจะตาย-ไม่ตายผมเฉยๆ ปกติ คือก็สู้อยู่แล้ว อยากให้มันหายก็เลยตัดสินใจผ่า ตอนนี้อาการปกติ ไปไหน เดินเหินปกติครับ ทั่วไปดีขึ้น

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณหนูรัติ คงปาน

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

คุณวรรัตน์บุตรสาวให้สัมภาษณ์

 

“เริ่มแรกคุณแม่บอกว่าเจ็บตา และก็มองไม่เห็น เราเข้าใจว่าเป็นเพราะมีอายุทำให้สายตาไม่ดี แล้วพอผ่านไปสัก 2-3 เดือนจนอาการหนักขึ้น ก็เลยตัดสินใจพามาหาหมอตาก่อน”

 

คุณหมอก็ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดเลยค่ะ จนสุดท้ายคุณหมอบอกว่าตาไม่ได้เป็นอะไร คิดว่าน่าจะมีเนื้องอกที่ไปทับเส้นประสาทตา คุณหมอได้ส่งไปเอกซเรย์ทำ MRI ฉีดสีวันนั้นเลยค่ะ ผลก็ออกมาว่าเป็นเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง

 

คุณหมอเขาแนะนำให้มาพบกับ อ.นภสินธุ์ โชคดีวันนั้นที่ อ.นภสินธุ์อยู่เวรพอดี อาจารย์เขาก็แจ้งทุกอย่างเลยว่าไม่อันตราย เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านทางโพรงจมูก ซึ่งมี อ.ภูริปัณย์ เป็นคนเปิดช่องให้

 

หลังจากผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็ได้เชิญเข้าห้องไอซียูเพื่อไปดูอาการคุณแม่ก็ตกใจมากไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่พึ่งผ่าตัดสมองมา เพราะว่าคุณแม่รู้เรื่องทุกอย่างเลยค่ะ ขอบคุณ อ.นภสินธุ์ และ อ.ภูริปัณย์มากๆ ค่ะ

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณนิสา วงษ์วิชา

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

ในระยะเวลา 7-8 เดือน เริ่มจาก คัด จาม น้ำมูกไหล คิดว่าเป็น “ภูมิแพ้”

 

เริ่มจากคัดจมูก 1 ข้างเป็น 2 ข้าง...จนต่อมาหายใจไม่ได้เลย และเริ่มเห็นก้อนโผล่ออกมาที่จมูก ต้องหายใจทางปากตลอด แต่ก็รักษามาเรื่อยๆ นะ คืออาการหนักเลย จนกระทั้งวันหนึ่งมีเลือดออกทางจมูกด้านขวาเพราะด้านซ้ายจมูกตัน แล้วก็ออกลำคอไหลออกทั้งวัน

 

ไม่หยุดก็เลยไป รพ.ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งเพราะมีประกันสังคมอยู่ที่นั่น...หมอเขาก็ตรวจแล้วก็ส่งตัวไป รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อเอาก้อนเนื้อจากจมูกไปตรวจ พอผลตรวจออกมาว่าเป็นมะเร็ง และลามขึ้นสมองแล้วเขาไม่สามารถที่จะผ่าได้เขาก็เลยส่งมาที่ รพ.รามคำแหง เพราะทีมแพทย์พร้อม เครื่องมือพร้อมเห็นคุณหมอบอกเนื้องอกของคุณใหญ่มาก บอกว่า ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน ถามว่ากลัวไหม

 

มันก็กลัวนะ ...เราก็ไม่กล้านอนนะกลัวหายใจไม่ออก ต้องขอจับมือคุณพยาบาลให้เฝ้าจนนอนหลับก่อนค่อยออกไปได้ไหม อะไรประมาณนี้ค่ะ

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณหวัง เตโช

 

ประสบการณ์การรักษาจากผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

ตาขวาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นและ ปวดหัวแบบจี๊ด ๆ แล้วลามมาปวดที่ขมับขวาอยู่อย่างนั้น ซึ่งเวลาไหนที่ปวดมากก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับน้ำตาก็จะไหล...

 

“คุณกุลภัสสร์” บุตรสาวของ “คุณหวัง เตโช” โดยได้ให้ข้อมูลว่า “...เขากินยาพวกความดันอยู่แล้ว แต่ก่อนผ่าตัดราว 1-2 อาทิตย์เกิดอาการปวดหัวมาก...ปวดจนไม่ได้นอนเพราะถ้านอนไปแล้วก็จะปวด-ปวดจนนอนไม่หลับ ลูก ๆ เลยคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้วเพราะแม่ได้นอนเลยถึงได้พาไปโรงพยาบาลแล้วได้เข้าเครื่อง MRI ก็เจอก้อนเนื้องอก ทำให้มาคิดกันว่าเราจะพาแม่ไปผ่าที่ไหนดี ก็เลยค้นหาข้อมูลจากเน็ตก็เจอว่าโรงพยาบาลรามคำแหงมีชื่อเสียงเรื่องรักษาเนื้องอก ก็เลยสรุปว่างั้นเราเลือกไปที่โรงพยาบาลรามคำแหงโดยไปหาคุณหมอนภสินธุ์ เถกิงเดช แม่จึงได้เข้าเครื่องสแกนสมอง MRI อีกรอบแล้วหมอก็บอกว่ามีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 2.5 เซนติเมตรอยู่ด้านหลังตาขวาตรงช่องระหว่างสมองซึ่งผ่าตัดได้ แต่แม่ก็คิดอยู่ว่ากลัวจะไม่ฟื้น คือไม่อยากผ่าเพราะกลัวตายนั่นละ หมอก็บอกว่าเคยเจอกรณีที่ยากกว่านี้ ขออย่าได้กังวล...ก็ให้กำลังใจคนไข้ค่ะ แม่ได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลรามคำแหง 1 อาทิตย์ค่ะ และได้เข้ารับการตรวจสแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอีกรอบหนึ่ง และหลังจากที่คุณหมอพิจารณาผลการสแกนแล้วก็ได้บอกเราว่าอีก 2 ปีค่อยมาเจอกัน...ประทับใจอาจารย์หมอเพราะพอผ่าตัดเสร็จตอนกลางคืนก็โทรมาบอกเราตอนเที่ยงคืนนั้นเลย ดึกขนาดนั้นก็ยัง โทรมาหามาบอกเราว่าปลอดภัยดีนะ คุณแม่เขาโอเคหมอผ่าตัดเรียบร้อย เพราะรู้ว่าเราเป็นห่วงเพราะแม่เองก็กังวลกลัวว่าจะไม่ฟื้น เลยพลอยให้ลูก ๆ ห่วงกันไปด้วย แต่มันก็น่ากลัว ผ่าสมองก็ต้องกลัวกันทั้งนั้น...แต่อาจารย์ก็บอกว่าไม่ต้องกลัว คิดไม่ผิดเลยที่ค้นข้อมูลแล้วเจอคุณหมอนภสินธุ์คนนี้ละค่ะ...นอกนั้นก็พาแม่ไปหาหมอปนัดดาเพื่อจะได้ดูเกี่ยวกับเบาหวาน ความดันโลหิต และแม่ก็เป็นหัวใจโตด้วยก็ให้เขาดูแลหมดทุกอย่าง คือต้องพามาหาหมอทุก 2-3 เดือนค่ะ...”

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณมาลี อรุณพูลทรัพย์

 

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

“ไม่มีอาการปวดหัว แต่มีอาการเหมือนโรคซึมเศร้ามาก คือชอบอยู่คนเดียว เอาแต่นอนไม่แต่งตัว”

 

ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2562 คือจะนอน ไม่พูดจากับใครไม่คุยกับใครไม่ยอมไปสอนหนังสือแล้วก็มีอาการมึนหัว งานการไม่เอา แม่ก็บอกว่าลองพาไปเช็คที่ รพ.รามคำแหง ซิว่าเขาเป็นอะไร ก็โทรมาปรึกษากับพยาบาลว่าอาการแบบเนี๊ยะ จากที่เราศึกษาดูเหมือนโรคซึมเศร้าเลย พามาหาหมอโรคจิตแต่อาการเขาน่ะไม่มีปวดหัวเลย ก็มาหาหมอช่วงเดือนธันวาคมประมาณเดือนหนึ่งมาทุกอาทิตย์ก็ไม่ดีขึ้น เพราะว่าคุณไข้เริ่มปัสสาวะ อุจจาระ ไม่รู้เรื่องแล้วน่าจะเกี่ยวกับสมอง เพราะว่าสมองมันจะคุมทุกอย่าง วันนี้เลยต้องเข้าอุโมงค์เลยโดยรอ 4 ชม.เพื่อให้ท้องว่างให้ทุกอย่างว่างให้พร้อม คุณหมอก็บอกว่ามันเป็นเยอะมากเนื้องอกอยู่รอบไปหมดเลย

 

หมอบอกว่าให้มาเตรียมตัวเลยต้องผ่าตัดใช้เวลา 10 ชม. ที่จะทำการผ่าตัดก็ตกลงมาอยู่นี่แล้วก็เริ่มผ่าตัด พอผ่าตัดแล้วคือเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยออกมาก็อาละวาด จะดึงแผลออก ดึงทุกอย่าง ก็ต้องคอยเฝ้ากันไม่ให้เขาดึง ต่อมาอาการเขาก็ดีขึ้นๆ จำคนโน้นได้จำคนนี้ได้จำทุกอย่างได้ทุกครั้งที่มาหาหมอๆ ก็จะเช็คสมองโดยการให้บวกเลขบ้างให้ลบเลขบ้าง แต่เขาก็ดีขึ้นสามารถจำได้บวกลบเลขได้ คุณหมอบอกว่าจากการผ่าตัด คือสมองเนื้องอกส่วนที่เอาออกไปมันต้องรอเวลาที่จะให้มันกลับมาเหมือนเดิมจากที่มันโดนกดทับค่ะ

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณปราณี และมัด

 

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

“ผ่าตัด 4 ชม.ฟื้นมาก็ปกติ ต่างจากตอนมาอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ”

 

พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ นอนทั้งวันแล้วก็เหมือนถามอะไรก็จะตอบช้าๆ คิดไม่ออก จำ พ.ศ.เกิด วันเกิดของตัวเองไม่ได้ แม่ก็นอนอย่างเดียวเลยแล้วข้าวปลาก็ไม่กิน น้ำก็ไม่อาบหนูก็เอะใจมาก ก็เลยพาแม่ไปรพ.

 

เวลาเข้าพบหมอๆ ก็ถามอะไรแม่เกี่ยวกับอาการแล้วคุณหมอก็ให้ไปทำเอ็มอาร์ไอฉีดสี รู้ผลๆ ออกมา หมอก็บอกว่าเป็นเนื้องอกในสมองค่ะ ก็เลยต้องอยู่รพ. วันนั้นเลย และต้องผ่าวันรุ่งขึ้นเพราะสมองบวมเยอะแล้วค่ะ

 

หลังจากคุณหมอผ่าตัด 4 ชม. ก็รู้สึกตัวเลยค่ะ ลูกๆ ก็มาล้อมรอบเตียงถามว่าจำได้ไหม จำ พี่ๆ น้องๆ ได้ไหม คือลูกๆ กลัวว่าจะจำคนโน้นได้มั๊ย จำอะไรต่ออะไรได้มั๊ย แม่ก็จำได้หมดสื่อสารทุกอย่างได้หมด คล่องแคล่ว ดีใจกันใหญ่เลย ร้องไห้แบบดีใจว่าเออคุณแม่จำได้ทุกอย่าง กลับมาเป็นเหมือนเดิม

 

  • โรคเนื้องอกในสมอง กับการใช้ Fiber tractography

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณปัทมา คำสอน

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

ปวดหัวอยู่ประมาณ 3-4 วัน

 

“ก็ไปหาคุณหมอท่านก็บอกว่าน่าจะเป็นไมเกรนระยะเริ่มต้น ก็ให้ยามาทานแล้วก็ฉีดยา มันไม่หายก็ หมอก็ขอสแกนผลออกมาก็ไม่มีอะไร วันรุ่งขึ้นกินไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว แฟนก็เลยหามกลับไปโรงพยาบาล

 

คุณหมอก็เอาผล CT มาดูใหม่ แล้วก็เห็นเลยว่ามีอะไรบางอย่างก็โดนแอดมิดไปเลย คุณหมอก็แจ้งกลางดึกอีกวันหนึ่งอาจจะเป็นเนื้องอกนะ

 

แต่มันอยู่ตรงต่อมใต้สมอง เราก็ถามเรื่องการรักษา หมอบอกง่ายสุดคือผ่าตัดส่องกล้อง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องแบบเปิดสมอง พอเอาออกไปแล้วก็คือจบ ตอนนี้ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ เมื่อก่อนเป็นคนป่วยง่าย ตั้งแต่ผ่าตัดก็ไม่ป่วยอีกเลย”

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณสุชาติ ตรีนพรัตน์

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

“ผมก็ออกกำลังกายปกติเนี่ยล่ะครับ ออกกำลังกายสักพักใหญ่ๆ แล้วผมก็เดินโงนเงนๆ เหมือนกับบ้านหมุน”

 

ผมก็ไม่เอะใจอะไรเลย วัน 2 วันผมก็ไม่ซีเรียสไม่คิดอะไรมาก แล้วทีนี้ผมก็นอนหลับเหมือนจะมีอาการบ้านหมุน นอนเหมือนกับคนน้ำในหูไม่เท่ากันทำนองนั้นครับ ลืมตาไม่ได้เลยมันก็เหมือนหมุนติ้วๆ เลย

 

ผมก็เลยเรียก 1669 ขอไป รพ.รามคำแหง แอดมิดดีกว่า เราอยากเช็คให้แน่นอน ไปหาหมอภูริปัณย์แล้วเขาก็เช็คเรื่องประสาทตา ประสาทหู พอทำ MRI ถึงจะรู้ไงไปเจอเนื้องอก หมอก็แนะนำว่าต้องผ่าด่วน ผมก็เลยตัดสินใจผ่าเลยดีกว่า

 

คุยกับหมอได้ผมไม่วิตกไอ้เรื่องว่าผ่าแล้วจะตาย-ไม่ตายผมเฉยๆ ปกติ คือก็สู้อยู่แล้ว อยากให้มันหายก็เลยตัดสินใจผ่า ตอนนี้อาการปกติ ไปไหน เดินเหินปกติครับ ทั่วไปดีขึ้น

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณหนูรัติ คงปาน

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

คุณวรรัตน์บุตรสาวให้สัมภาษณ์

 

“เริ่มแรกคุณแม่บอกว่าเจ็บตา และก็มองไม่เห็น เราเข้าใจว่าเป็นเพราะมีอายุทำให้สายตาไม่ดี แล้วพอผ่านไปสัก 2-3 เดือนจนอาการหนักขึ้น ก็เลยตัดสินใจพามาหาหมอตาก่อน”

 

คุณหมอก็ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดเลยค่ะ จนสุดท้ายคุณหมอบอกว่าตาไม่ได้เป็นอะไร คิดว่าน่าจะมีเนื้องอกที่ไปทับเส้นประสาทตา คุณหมอได้ส่งไปเอกซเรย์ทำ MRI ฉีดสีวันนั้นเลยค่ะ ผลก็ออกมาว่าเป็นเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง

 

คุณหมอเขาแนะนำให้มาพบกับ อ.นภสินธุ์ โชคดีวันนั้นที่ อ.นภสินธุ์อยู่เวรพอดี อาจารย์เขาก็แจ้งทุกอย่างเลยว่าไม่อันตราย เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านทางโพรงจมูก ซึ่งมี อ.ภูริปัณย์ เป็นคนเปิดช่องให้

 

หลังจากผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็ได้เชิญเข้าห้องไอซียูเพื่อไปดูอาการคุณแม่ก็ตกใจมากไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่พึ่งผ่าตัดสมองมา เพราะว่าคุณแม่รู้เรื่องทุกอย่างเลยค่ะ ขอบคุณ อ.นภสินธุ์ และ อ.ภูริปัณย์มากๆ ค่ะ

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณนิสา วงษ์วิชา

 

ผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมอง

 

ในระยะเวลา 7-8 เดือน เริ่มจาก คัด จาม น้ำมูกไหล คิดว่าเป็น “ภูมิแพ้”

 

เริ่มจากคัดจมูก 1 ข้างเป็น 2 ข้าง...จนต่อมาหายใจไม่ได้เลย และเริ่มเห็นก้อนโผล่ออกมาที่จมูก ต้องหายใจทางปากตลอด แต่ก็รักษามาเรื่อยๆ นะ คืออาการหนักเลย จนกระทั้งวันหนึ่งมีเลือดออกทางจมูกด้านขวาเพราะด้านซ้ายจมูกตัน แล้วก็ออกลำคอไหลออกทั้งวัน

 

ไม่หยุดก็เลยไป รพ.ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งเพราะมีประกันสังคมอยู่ที่นั่น...หมอเขาก็ตรวจแล้วก็ส่งตัวไป รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อเอาก้อนเนื้อจากจมูกไปตรวจ พอผลตรวจออกมาว่าเป็นมะเร็ง และลามขึ้นสมองแล้วเขาไม่สามารถที่จะผ่าได้เขาก็เลยส่งมาที่ รพ.รามคำแหง เพราะทีมแพทย์พร้อม เครื่องมือพร้อมเห็นคุณหมอบอกเนื้องอกของคุณใหญ่มาก บอกว่า ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน ถามว่ากลัวไหม

 

มันก็กลัวนะ ...เราก็ไม่กล้านอนนะกลัวหายใจไม่ออก ต้องขอจับมือคุณพยาบาลให้เฝ้าจนนอนหลับก่อนค่อยออกไปได้ไหม อะไรประมาณนี้ค่ะ

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณหวัง เตโช

 

ประสบการณ์การรักษาจากผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

ตาขวาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นและ ปวดหัวแบบจี๊ด ๆ แล้วลามมาปวดที่ขมับขวาอยู่อย่างนั้น ซึ่งเวลาไหนที่ปวดมากก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับน้ำตาก็จะไหล...

 

“คุณกุลภัสสร์” บุตรสาวของ “คุณหวัง เตโช” โดยได้ให้ข้อมูลว่า “...เขากินยาพวกความดันอยู่แล้ว แต่ก่อนผ่าตัดราว 1-2 อาทิตย์เกิดอาการปวดหัวมาก...ปวดจนไม่ได้นอนเพราะถ้านอนไปแล้วก็จะปวด-ปวดจนนอนไม่หลับ ลูก ๆ เลยคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้วเพราะแม่ได้นอนเลยถึงได้พาไปโรงพยาบาลแล้วได้เข้าเครื่อง MRI ก็เจอก้อนเนื้องอก ทำให้มาคิดกันว่าเราจะพาแม่ไปผ่าที่ไหนดี ก็เลยค้นหาข้อมูลจากเน็ตก็เจอว่าโรงพยาบาลรามคำแหงมีชื่อเสียงเรื่องรักษาเนื้องอก ก็เลยสรุปว่างั้นเราเลือกไปที่โรงพยาบาลรามคำแหงโดยไปหาคุณหมอนภสินธุ์ เถกิงเดช แม่จึงได้เข้าเครื่องสแกนสมอง MRI อีกรอบแล้วหมอก็บอกว่ามีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 2.5 เซนติเมตรอยู่ด้านหลังตาขวาตรงช่องระหว่างสมองซึ่งผ่าตัดได้ แต่แม่ก็คิดอยู่ว่ากลัวจะไม่ฟื้น คือไม่อยากผ่าเพราะกลัวตายนั่นละ หมอก็บอกว่าเคยเจอกรณีที่ยากกว่านี้ ขออย่าได้กังวล...ก็ให้กำลังใจคนไข้ค่ะ แม่ได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลรามคำแหง 1 อาทิตย์ค่ะ และได้เข้ารับการตรวจสแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอีกรอบหนึ่ง และหลังจากที่คุณหมอพิจารณาผลการสแกนแล้วก็ได้บอกเราว่าอีก 2 ปีค่อยมาเจอกัน...ประทับใจอาจารย์หมอเพราะพอผ่าตัดเสร็จตอนกลางคืนก็โทรมาบอกเราตอนเที่ยงคืนนั้นเลย ดึกขนาดนั้นก็ยัง โทรมาหามาบอกเราว่าปลอดภัยดีนะ คุณแม่เขาโอเคหมอผ่าตัดเรียบร้อย เพราะรู้ว่าเราเป็นห่วงเพราะแม่เองก็กังวลกลัวว่าจะไม่ฟื้น เลยพลอยให้ลูก ๆ ห่วงกันไปด้วย แต่มันก็น่ากลัว ผ่าสมองก็ต้องกลัวกันทั้งนั้น...แต่อาจารย์ก็บอกว่าไม่ต้องกลัว คิดไม่ผิดเลยที่ค้นข้อมูลแล้วเจอคุณหมอนภสินธุ์คนนี้ละค่ะ...นอกนั้นก็พาแม่ไปหาหมอปนัดดาเพื่อจะได้ดูเกี่ยวกับเบาหวาน ความดันโลหิต และแม่ก็เป็นหัวใจโตด้วยก็ให้เขาดูแลหมดทุกอย่าง คือต้องพามาหาหมอทุก 2-3 เดือนค่ะ...”

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณมาลี อรุณพูลทรัพย์

 

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

“ไม่มีอาการปวดหัว แต่มีอาการเหมือนโรคซึมเศร้ามาก คือชอบอยู่คนเดียว เอาแต่นอนไม่แต่งตัว”

 

ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2562 คือจะนอน ไม่พูดจากับใครไม่คุยกับใครไม่ยอมไปสอนหนังสือแล้วก็มีอาการมึนหัว งานการไม่เอา แม่ก็บอกว่าลองพาไปเช็คที่ รพ.รามคำแหง ซิว่าเขาเป็นอะไร ก็โทรมาปรึกษากับพยาบาลว่าอาการแบบเนี๊ยะ จากที่เราศึกษาดูเหมือนโรคซึมเศร้าเลย พามาหาหมอโรคจิตแต่อาการเขาน่ะไม่มีปวดหัวเลย ก็มาหาหมอช่วงเดือนธันวาคมประมาณเดือนหนึ่งมาทุกอาทิตย์ก็ไม่ดีขึ้น เพราะว่าคุณไข้เริ่มปัสสาวะ อุจจาระ ไม่รู้เรื่องแล้วน่าจะเกี่ยวกับสมอง เพราะว่าสมองมันจะคุมทุกอย่าง วันนี้เลยต้องเข้าอุโมงค์เลยโดยรอ 4 ชม.เพื่อให้ท้องว่างให้ทุกอย่างว่างให้พร้อม คุณหมอก็บอกว่ามันเป็นเยอะมากเนื้องอกอยู่รอบไปหมดเลย

 

หมอบอกว่าให้มาเตรียมตัวเลยต้องผ่าตัดใช้เวลา 10 ชม. ที่จะทำการผ่าตัดก็ตกลงมาอยู่นี่แล้วก็เริ่มผ่าตัด พอผ่าตัดแล้วคือเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยออกมาก็อาละวาด จะดึงแผลออก ดึงทุกอย่าง ก็ต้องคอยเฝ้ากันไม่ให้เขาดึง ต่อมาอาการเขาก็ดีขึ้นๆ จำคนโน้นได้จำคนนี้ได้จำทุกอย่างได้ทุกครั้งที่มาหาหมอๆ ก็จะเช็คสมองโดยการให้บวกเลขบ้างให้ลบเลขบ้าง แต่เขาก็ดีขึ้นสามารถจำได้บวกลบเลขได้ คุณหมอบอกว่าจากการผ่าตัด คือสมองเนื้องอกส่วนที่เอาออกไปมันต้องรอเวลาที่จะให้มันกลับมาเหมือนเดิมจากที่มันโดนกดทับค่ะ

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณปราณี และมัด

 

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

“ผ่าตัด 4 ชม.ฟื้นมาก็ปกติ ต่างจากตอนมาอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ”

 

พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ นอนทั้งวันแล้วก็เหมือนถามอะไรก็จะตอบช้าๆ คิดไม่ออก จำ พ.ศ.เกิด วันเกิดของตัวเองไม่ได้ แม่ก็นอนอย่างเดียวเลยแล้วข้าวปลาก็ไม่กิน น้ำก็ไม่อาบหนูก็เอะใจมาก ก็เลยพาแม่ไปรพ.

 

เวลาเข้าพบหมอๆ ก็ถามอะไรแม่เกี่ยวกับอาการแล้วคุณหมอก็ให้ไปทำเอ็มอาร์ไอฉีดสี รู้ผลๆ ออกมา หมอก็บอกว่าเป็นเนื้องอกในสมองค่ะ ก็เลยต้องอยู่รพ. วันนั้นเลย และต้องผ่าวันรุ่งขึ้นเพราะสมองบวมเยอะแล้วค่ะ

 

หลังจากคุณหมอผ่าตัด 4 ชม. ก็รู้สึกตัวเลยค่ะ ลูกๆ ก็มาล้อมรอบเตียงถามว่าจำได้ไหม จำ พี่ๆ น้องๆ ได้ไหม คือลูกๆ กลัวว่าจะจำคนโน้นได้มั๊ย จำอะไรต่ออะไรได้มั๊ย แม่ก็จำได้หมดสื่อสารทุกอย่างได้หมด คล่องแคล่ว ดีใจกันใหญ่เลย ร้องไห้แบบดีใจว่าเออคุณแม่จำได้ทุกอย่าง กลับมาเป็นเหมือนเดิม