เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด โรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมใส่ใจดูแลสุขภาพของท่านโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาตร์การกีฬา ผศ.ดร.สิทธา พงษ์พิบูลย์ พร้อมบุคลากรการแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะทางให้ความรู้กับผู้ป่วย
มอบโอกาสกับชีวิต เพื่อให้กลับมาทำฝันที่หัวใจต้องการอีกครั้ง
การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด (Cardiac Rehabilitation) เป็นกระบวนการที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงผ่อนคลายกังวล กลับมาใช้ชีวิตและออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และการออกกำลังกาย ออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายใจให้ผู้ป่วยดีขึ้น ควบคุมอาการ และลดโอกาสเกิดโรคซ้ำ นอกจากนี้ยัง ให้บริการทดสอบสมรรถภาพและให้คำปรึกษาแก่นักกีฬา รวมถึงผู้สนใจดูแลสุขภาพ เพื่อให้ทุกคนออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม
แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และการออกกำลังกาย โรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมดูแลด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย
แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอดและการออกกำลังกาย โรงพยาบาลรามคำแหงเป็นแผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอดและการออกกำลังกายที่มีความเป็นเลิศ มุ่งเน้นเฉพาะทางเรื่องการฟื้นฟูและดูแลสมรรถภาพหัวใจและปอด ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ แผนกแห่งนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเรื่องการฟื้นฟู ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้ป่วยในเรื่องที่เกี่ยวกับโรคหัวใจและปอด
แผนกแห่งนี้ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์การออกกำลังกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ช่วยเฝ้าระวังความผิดปกติระวังการออกกำลังกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายที่มีประสิทธิภาพสูง อาทิ
ระบบ Telemetry cardiac rehab management ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูหัวใจอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยติดตามคลื่นหัวใจแบบเรียลไทม์ระหว่างออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลใกล้ชิดพร้อมเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ความก้าวหน้าและปรับแผนการรักษา ระบบนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ
ECG เป็นอุปกรณ์สำหรับเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และติดตามภาวะผิดปกติของหัวใจ โดยการดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะที่มีการออกกำลังกาย เพื่อเฝ้าระวังและติดตามภาวะผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะออกกำลังกาย
จักรยานออกกำลังกายที่เชื่อมต่อกับระบบ cardiac rehab management system ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูหัวใจและเสริมสร้างกล้ามเนื้อขาได้อย่างปลอดภัย ระบบจะควบคุมความหนัก พร้อมวัดความดันโลหิตและออกซิเจนในเลือด เพื่อให้การออกกำลังกายเหมาะสม สิ่งนี้ช่วยเพิ่มสมรรถภาพหัวใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จักรยานแขนที่เชื่อมต่อกับระบบ Cardiac Rehab Management System ช่วยให้ผู้ป่วยออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยระบบจะควบคุมความหนักและเก็บข้อมูลความดันโลหิตกับออกซิเจนในเลือด อุปกรณ์นี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนบนและลำตัว รวมถึงฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ
ลู่วิ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม ทั้งระบบไหลเวียนโลหิต กล้ามเนื้อ การทรงตัว และสมรรถภาพหัวใจ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอดทนและฟื้นฟูสมรรถภาพ
multi-station เป็นอุปกรณ์เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยสามารถใช้อุปกรณ์นี้บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้หลายส่วน โดยสามารถกำหนดท่าออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างและพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ
อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยต้องใช้แขนและขาในการออกกำลังกายควบคู่กันไป การเคลื่อนไหวของร่างกายจะมีทั้งการดึงของแขนและการใช้ขาเพื่อถีบตัวออก ทำให้ผู้ป่วยได้บริหารกล้ามเนื้อทั้งส่วนบนและส่วนล่างของร่างกายไปพร้อมกัน
อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน และผู้ที่มีการทรงตัวไม่ดี ผู้ที่ออกกำลังกายจะต้องใช้ทั้งแขนและขาเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายไปพร้อมๆ กัน อุปกรณ์นี้ช่วยในการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและขา รวมถึงฟื้นฟูและส่งเสริมให้สมรรถภาพหัวใจแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
Impetus Air Bike เป็นอุปกรณ์จักรยานออกกำลังกายแบบที่มีแรงกระแทกต่ำ เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน และผู้ที่มีการทรงตัวที่ไม่ดี ผู้ที่ออกกำลังกายจะต้องใช้ทั้งแขนและขาเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายไปพร้อมๆ กัน อุปกรณ์นี้ช่วยในการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและขา รวมถึงฟื้นฟูและส่งเสริมให้สมรรถภาพหัวใจแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
** มาเริ่มการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสุขภาพของคุณด้วย "Health Start Program" โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด คลิก!
ผู้ป่วยโรคหัวใจที่เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ
"....พอได้มาออกกำลังกายแบบนี้ก็มั่นใจขึ้นว่าจะหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเป็นลมหมดสติ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้…."
มี “ความดันโลหิตสูง” เป็นโรคประจำตัวมานานกว่า 20 ปีแล้วโดยทานยาลดความดันฯ มาตลอด แล้วก็พบว่าเส้นเลือดหัวใจรวม 3 เส้นได้ตีบตันไปราวๆ 75 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จึงได้เข้ารับการรักษาด้วยการ “ทำบอลลูนขยายเส้นเลือด” ซึ่งทำได้เพียงเส้นเดียวเพราะอีก 2 เส้นมีลักษณะคดโค้งและคุณหมอเห็นว่าอายุมากเกรงว่าจะมีความเสี่ยง จึงพาคุณพ่อไปปรึกษาที่ “รพ.รามคำแหง” ส่งผลให้ได้รับการทำบอลลูนอีก 2 ตำแหน่งและผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย...หลังจากนั้นราวครึ่งเดือนได้เข้าคอร์สฟื้นฟูที่ “แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด” ซึ่งเป็นขั้นตอนอีกอย่างหนึ่งหลังจากได้รับการรักษาจนมีอาการดีขึ้นแล้วด้วยเหตุผลคือ...เพื่อให้สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตได้ตามปกติ ช่วยเหลือ ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น และสามารถควบคุมโรคได้ในระดับที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการกลับไปเกิดโรคซ้ำ...
“...แต่ละครั้ง อ.สิทธาจะให้ผมออกกำลังกายที่พอเหมาะกับร่างกาย ไม่เหนื่อยเกินไป แล้วก็พอที่ผมจะสามารถทำได้...นอกจากเดินก็ให้ขี่จักรยานออกกำลังขา ให้เดินสายพานในจังหวะที่เร็วกว่าผมเดินเองที่บ้าน เพื่อให้ผมก้าวขาได้ดีขึ้น แล้วก็มีให้ออกกำลังแขนโดยการดึงยางยืด ยืดเข้ายืดออก เพื่อให้กล้ามเนื้อแขนและไหล่แข็งแรงขึ้นด้วย แต่ละอย่างก็ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาก่อน พอได้มาออกกำลังกายแบบนี้ก็มั่นใจขึ้นว่าจะหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเป็นลมหมดสติ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ ตอนนี้มั่นใจว่าความดันไม่สูงมาก ก็จะทำให้การทำงานของหัวใจไม่หนักเกินไป...ยังคิดว่าจบคอร์สนี้แล้วจะต่ออีกสักคอร์ส คือมาทำ 6 ครั้งๆ ละประมาณ 50 นาที แต่ทำแล้วรู้สึกว่าได้ผลดีจริงๆ ครับ...”
ในด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด “ผศ.ดร.สิทธา พงษ์พิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด, การออกกำลังกายเพื่อรักษาโรค, วิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย รพ.รามคำแหง” ระบุว่าอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือน โดยจะมีการประเมินเป็นระยะว่าผู้ป่วยสามารถออกกำลังกาย หรือใช้แรงในระดับที่เหมาะสมได้อย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ รวมถึงหัวใจและปอดมีการทำงานที่ดีขึ้นแล้ว เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจที่จะไปออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตตามปกติของตนเองได้ “...การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด ต้องออกแบบและวางแผนร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ดูแลรักษาผู้ป่วย กับผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยกันพิจารณาพยาธิสภาพของผู้ป่วยแต่ละรายว่าควรออกกำลังกายแบบใด ด้วยอุปกรณ์ชนิดใด ใช้ระยะเวลาในการออกกำลังกายแต่ละครั้งนานเท่าใด ทั้งนี้ยังต้องมีการติดอุปกรณ์ติดตามผลการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต รวมถึงการตอบสนองของร่างกายว่าเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่อย่างใกล้ชิดไปพร้อมกัน เพราะบางกรณี เช่น คนที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจเกิดความผิดปกติเมื่อออกกำลังกาย หรือ คนที่เคยหัวใจวายมาก่อน เวลาออกกำลังกายไปถึงจุดหนึ่งแล้วหัวใจอาจจะขาด แรงปั๊มที่ดีทำให้ความดันตก ก็ต้องมีการปรับลดกิจกรรมการออกกำลังกายให้เหมาะสม คือต้องดูกราฟหัวใจให้ค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ความดันก็ต้องค่อยไต่ขึ้นไป ไม่สูงมาก และไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด...ที่สำคัญอีกคือ... “ต้องมีอุปกรณ์พร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที”
ผู้ป่วยโรคหัวใจที่เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ
"....พอได้มาออกกำลังกายแบบนี้ก็มั่นใจขึ้นว่าจะหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเป็นลมหมดสติ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้…."
มี “ความดันโลหิตสูง” เป็นโรคประจำตัวมานานกว่า 20 ปีแล้วโดยทานยาลดความดันฯ มาตลอด แล้วก็พบว่าเส้นเลือดหัวใจรวม 3 เส้นได้ตีบตันไปราวๆ 75 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จึงได้เข้ารับการรักษาด้วยการ “ทำบอลลูนขยายเส้นเลือด” ซึ่งทำได้เพียงเส้นเดียวเพราะอีก 2 เส้นมีลักษณะคดโค้งและคุณหมอเห็นว่าอายุมากเกรงว่าจะมีความเสี่ยง จึงพาคุณพ่อไปปรึกษาที่ “รพ.รามคำแหง” ส่งผลให้ได้รับการทำบอลลูนอีก 2 ตำแหน่งและผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย...หลังจากนั้นราวครึ่งเดือนได้เข้าคอร์สฟื้นฟูที่ “แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด” ซึ่งเป็นขั้นตอนอีกอย่างหนึ่งหลังจากได้รับการรักษาจนมีอาการดีขึ้นแล้วด้วยเหตุผลคือ...เพื่อให้สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตได้ตามปกติ ช่วยเหลือ ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น และสามารถควบคุมโรคได้ในระดับที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการกลับไปเกิดโรคซ้ำ...
“...แต่ละครั้ง อ.สิทธาจะให้ผมออกกำลังกายที่พอเหมาะกับร่างกาย ไม่เหนื่อยเกินไป แล้วก็พอที่ผมจะสามารถทำได้...นอกจากเดินก็ให้ขี่จักรยานออกกำลังขา ให้เดินสายพานในจังหวะที่เร็วกว่าผมเดินเองที่บ้าน เพื่อให้ผมก้าวขาได้ดีขึ้น แล้วก็มีให้ออกกำลังแขนโดยการดึงยางยืด ยืดเข้ายืดออก เพื่อให้กล้ามเนื้อแขนและไหล่แข็งแรงขึ้นด้วย แต่ละอย่างก็ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาก่อน พอได้มาออกกำลังกายแบบนี้ก็มั่นใจขึ้นว่าจะหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเป็นลมหมดสติ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ ตอนนี้มั่นใจว่าความดันไม่สูงมาก ก็จะทำให้การทำงานของหัวใจไม่หนักเกินไป...ยังคิดว่าจบคอร์สนี้แล้วจะต่ออีกสักคอร์ส คือมาทำ 6 ครั้งๆ ละประมาณ 50 นาที แต่ทำแล้วรู้สึกว่าได้ผลดีจริงๆ ครับ...”
ในด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด “ผศ.ดร.สิทธา พงษ์พิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด, การออกกำลังกายเพื่อรักษาโรค, วิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย รพ.รามคำแหง” ระบุว่าอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือน โดยจะมีการประเมินเป็นระยะว่าผู้ป่วยสามารถออกกำลังกาย หรือใช้แรงในระดับที่เหมาะสมได้อย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ รวมถึงหัวใจและปอดมีการทำงานที่ดีขึ้นแล้ว เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจที่จะไปออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตตามปกติของตนเองได้ “...การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด ต้องออกแบบและวางแผนร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ดูแลรักษาผู้ป่วย กับผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยกันพิจารณาพยาธิสภาพของผู้ป่วยแต่ละรายว่าควรออกกำลังกายแบบใด ด้วยอุปกรณ์ชนิดใด ใช้ระยะเวลาในการออกกำลังกายแต่ละครั้งนานเท่าใด ทั้งนี้ยังต้องมีการติดอุปกรณ์ติดตามผลการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต รวมถึงการตอบสนองของร่างกายว่าเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่อย่างใกล้ชิดไปพร้อมกัน เพราะบางกรณี เช่น คนที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจเกิดความผิดปกติเมื่อออกกำลังกาย หรือ คนที่เคยหัวใจวายมาก่อน เวลาออกกำลังกายไปถึงจุดหนึ่งแล้วหัวใจอาจจะขาด แรงปั๊มที่ดีทำให้ความดันตก ก็ต้องมีการปรับลดกิจกรรมการออกกำลังกายให้เหมาะสม คือต้องดูกราฟหัวใจให้ค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ความดันก็ต้องค่อยไต่ขึ้นไป ไม่สูงมาก และไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด...ที่สำคัญอีกคือ... “ต้องมีอุปกรณ์พร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที”