พญ. ธิตินันท์ ตัณสถิตย์
สูติ-นรีเวช (เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์)
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
“นมแม่” ยังคงเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก แต่จากรายงานการศึกษาล่าสุดโดยทีมนักวิจัยชาวไทย พบว่า มีไมโครพลาสติกในน้ำนมแม่สูงถึง 38.98% จากกลุ่มตัวอย่างหญิงไทยหลังคลอด 59 คน โดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 28 ปี สันนิษฐานว่าไมโครพลาสติกเหล่านี้อาจเข้าสู่ร่างกายจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ไมโครพลาสติก (Microplastics) คือชิ้นส่วนของพลาสติกขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยมักเกิดจากการเสื่อมสภาพของพลาสติกขนาดใหญ่เมื่อผ่านความร้อน การเสียดสี หรือการย่อยสลายตามธรรมชาติ แหล่งที่มาพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำ กล่องใส่อาหาร ถุงพลาสติก เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงอาหารทะเลจากแหล่งธรรมชาติ
ค่าเฉลี่ยที่ร่างกายมนุษย์ได้รับไมโครพลาสติก สูงถึง 5 กรัมต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 240 กรัมต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับบัตรเครดิต 1 ใบต่อสัปดาห์ ซึ่งพลาสติกที่ถูกพบในร่างกาย ได้แก่ โพลิโพรพีลีน (PP), โพลีเอทิลีน (PE), พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) โดยพลาสติกประเภทนี้มาจาก ภาชนะใส่อาหาร ขวดนม และถุงพลาสติก
แม้ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าไมโครพลาสติกที่อยู่ในร่างกายมนุษย์จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างไรในระยะยาว แต่มีงานวิจัยในสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่า ไมโครพลาสติกบางชนิดสามารถ ทำลายเนื้อเยื่อหลอดเลือด ส่งผลต่อระบบหัวใจ เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และมีผลกระทบต่อฮอร์โมนและการพัฒนาทางร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
ไมโครพลาสติกส่วนใหญ่สามารถขับออกจากร่างกายได้ผ่านระบบขับถ่าย แต่หากมีขนาดเล็กมาก อาจตกค้างในร่างกายและก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้ ซึ่งสารที่น่ากังวลคือ Bisphenol A (BPA) เป็นสารที่อาจเล็ดลอดออกจากภาชนะพลาสติก และสามารถรบกวนระบบฮอร์โมนของร่างกายได้
แม้จะมีการพบไมโครพลาสติกในน้ำนมแม่ แต่คุณแม่ควรให้นมบุตรต่อไป เนื่องจากน้ำนมแม่ยังคงเป็นแหล่งสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดสำหรับทารกในวัยแรกเกิด อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย คุณแม่ควรป้องกันและลดการรับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย ด้วยวิธีดังนี้
แม้ไมโครพลาสติกจะถูกพบในน้ำนมแม่ แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารกโดยตรงในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม การใส่ใจในเรื่องสุขภาพและการหลีกเลี่ยงแหล่งของไมโครพลาสติกในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สูติ-นรีเวช (เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์)