Messenger

วิธีทานยาที่ถูกต้อง ได้ผลดี และไม่เป็นอันตราย!

September 17 / 2025

วิธีกินยาที่ถูกต้อง

 

 

 

     ปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นประกอบด้วย อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค โดยเฉพาะยารักษาโรคที่ทำให้ชีวิตมนุษย์เรายืนยาวขึ้นกว่าเดิม แต่การกินยาต้องมีข้อจำกัด และต้องกินอย่างระมัดระวัง หรือตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น เราจะกินยาตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะยาแต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีผลข้างเคียงมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ซึ่งการกินยาไม่ระมัดระวังอาจจะเป็นอันตรายหรือในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต

 

ทำไมการทานยารักษาถึงไม่ได้ผลกับบางคน 

     ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจการทานยาก่อนว่าอาการเจ็บป่วยบางสาเหตุที่รักษาไม่หายนั้นบางครั้งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ป่วยเองเพราะบางคนมักจะหลีกเลี่ยงการทานยาด้วยความไม่ชอบ หรือไม่ได้มีความเอาใจใส่มากพอที่จะทานยาให้ตรงเวลาหรือทานให้ติดต่อกันเพื่อครบโดสของยาในการรักษา หรือการไม่ไปพบแพทย์เพื่อรับยาอย่างต่อเนื่องก็เป็นสาเหตุที่จะทำให้โรคภัยต่าง ๆ ลุกลามและรักษาหายยากมากขี้น

 

 

วิธีกินยาที่ถูกต้อง

 

 

หลักการทานยาที่ถูกต้อง

     ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักการใช้ยาที่ถูกต้องซึ่งก็จะทำให้การรักษาไม่ได้ผลเช่นกัน และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด “อันตราย” จึงควรใช้ยาให้ถูกหลักการ คือ

 

1.  ใช้ยาให้ถูกโรค

     แพทย์หรือเภสัชกรเป็นผู้จัดยาให้ เพื่อรักษาได้ถูกอาการ เราไม่ควรซื้อยาหรือใช้ยาตามคำบอกเล่าของคนอื่น หรือหลงเชื่อคำโฆษณาต่าง ๆ เพราะหากใช้ยาไม่ถูกกับโรคอาจทำให้ได้รับอันตรายจากยานั้นได้หรือไม่ได้ผลในรักษา และยังอาจเกิดโรคอื่นๆ แทรกซ้อนได้
 

2.  ใช้ยาให้ถูกคน

     ร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน โดยมีเพศและวัยเป็นปัจจัยพื้นฐาน กรณีของสตรีมีครรภ์ ต้องคำนึงถึงทารกในครรภ์ด้วย เนื่องจากยาหลายชนิดสามารถผ่านจากแม่ไปสู่ลูกในครรภ์ได้ ซึ่งอาจมีผลทำให้เด็กที่คลอดมีความผิดปรกติ การใช้ยาในสตรีมีครรภ์จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
 

3.  ใช้ยาให้ถูกเวลา

     เราควรเลือกช่วงเวลาทานยาที่เหมาะสม เพื่อให้ยาในกระแสเลือดมีปริมาณที่พอเหมาะ โดยไม่มากน้อยและไม่ก่อพิษจนไม่สามารถรักษาโรคได้
 

4.  ใช้ยาให้ถูกวิธี

     การนำยาเข้าสู่ร่างกายมีหลายวิธี เช่น การกิน การฉีด และการใช้ยาด้วยวิธีใดก็ตามขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของยานั้น ดังนั้นก่อนใช้ยาต้องอ่านฉลากแนะนำการใช้ก่อนทุกครั้ง

 

 

วิธีกินยาที่ถูกต้อง

 

 

ควรอ่านฉลากยาก่อนรับประทาน

1.  ยาก่อนอาหาร

     ควรทานในช่วงที่ท้องว่าง ซึ่งก็คือก่อนทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที ยกเว้นยาบางตัวที่แนะนำให้ทานก่อนอาหารอย่างน้อย 15 นาที ถ้าลืมทานยาก่อนอาหาร ควรข้ามยามื้อที่ลืมไป เพราะยาจะถูกทำลายหรืออาหารอาจลดการดูดซึมของยา

 

2.  ยาหลังอาหาร

     ควรทานหลังอาหารไม่เกิน 15-30 นาที แต่ถ้าลืมทานยาหลังอาหาร สามารถทานยาได้ทันทีที่นึกได้ แต่ถ้านึกได้หลังจากทานอาหารมากกว่า 30 นาทีแล้ว ควรทานหลังอาหารในมื้อถัดไปแทน หรืออาจทานอาหารมื้อย่อยแทนมื้อหลักก่อนทานยาก็ได้ กรณีที่ยานั้นมีความสำคัญมาก

 

3.  ยาหลังอาหารทันที

     ควรทานหลังอาหารทันที อาจทานพร้อมอาหารอคำแรกก็ได้ เนื่องจากยามีผลข้างเคียงที่สำคัญคือระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน การทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้

 

4.  ยาก่อนนอน

     ยาที่แนะนำให้ทานก่อนนอนมีหลายประเภท แต่โดยทั่วไป ควรทานก่อนนอน 15-30 นาที ถ้าลืมทานยาก่อนนอน มักนึกได้เมื่อถึงเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว ไม่ควรทานยานั้นอีก ควรรอให้ถึงเวลาก่อนเข้านอนในคืนถัดไป ค่อยทานยานั้น

 

5.  ยาที่ต้องทานทุกวัน

     ควรทานเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน ยาบางชนิดที่รักษาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง โรคหัวใจ ที่ต้องทานทุกวัน ควรทานเวลาเดียวกัน เพราะฤทธิ์ของยานั้นจะครอบคลุม 12-24 ชั่วโมงแล้วแต่โดสของยา จึงควรทานยาให้ตรงเวลาทุกวัน เพื่อไม่ให้ฤทธิ์ยาทับกัน หรือฤทธิ์ยานั้นห่างกันเกินไป โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตที่ควรกินในเวลาเดียวกันทุกวันหรือห่างไม่เกินบวกลบ 30 นาที เพราะความดันขึ้นๆ ลงๆ จะเป็นอันตรายค่อนข้างมาก หากลืมทานยาเกิน 2-3 ชั่วโมงเป็นแล้วควรเว้นวันนั้นไปเลยดีกว่า

 

6.  ยาทานเมื่อมีอาการ

     ควรทานเมื่อมีอาการ หากไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องทานยา ยาในกลุ่มนี้ มักระบุในฉลากว่าทานทุกกี่ชั่วโมงเวลามีอาการ เช่น ทุก 8 ชั่วโมง หรือทุก 12 ชั่วโมง เวลามีอาการ เป็นต้น เมื่อมีอาการสามารถทานยาได้เลย ไม่ต้องคำนึงถึงมื้ออาหาร เนื่องจากไม่ว่าจะทานอาหารหรือไม่ ก็ไม่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หลังทานยาแล้วถ้ายังมีอาการอยู่สามารถทานยาซ้ำได้ ตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก เมื่อหายแล้วสามารถหยุดยาได้เลย

 

 

 

แก้ไข

29/03/2566