Messenger

รู้ตัวเร็ว รู้ตัวไว ป้องกันได้ เรื่องเล่าจากหมอเฉพาะทางโรคไต

July 10 / 2025

 

 

 

     ไตไม่ได้มีเพียงหน้าที่ขับของเสีย แต่ยังปรับสมดุลเกลือแร่และควบคุมฮอร์โมนด้วย เมื่อไตผิดปกติ จะส่งผลกระทบเกือบทุกระบบในร่างกาย การดูแลสุขภาพไตจึงสำคัญมาก เราสามารถเริ่มดูแลไตได้ง่าย ๆ ด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเกิดโรค รวมถึงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม เพื่อให้มีสุขภาพไตที่ดีและยืดอายุการใช้งานของไตไปนาน ๆ

 

ทำความรู้จักกับ ‘โรคไต’

     ทำความรู้จักกับ ‘โรคไต’ โดยปกติ ไตจะทำหน้าที่กำจัดของเสียและสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย รวมไปถึงดูแลการหลั่งฮอร์โมน ควบคุมน้ำและแร่ธาตุในร่างกายให้สมดุล แต่เมื่อการทำงานของไตเกิดความผิดปกติ เกิดความเสียหาย หรือทำงานได้น้อยลง ก็ย่อมส่งผลให้ของเสียตกค้างอยู่ในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคไต ภาวะไตเสื่อม และหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจก่อให้เกิดภาวะไตวายได้ ซึ่งโรคไตแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
 

1.  ภาวะไตวายเฉียบพลัน

     ภาวะไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในช่วงระยะเวลาวันหรือสัปดาห์ และมีอาการรุนแรงกว่าภาวะไตวายเรื้อรัง ในเบื้องต้น สามารถสังเกตอาการผิดปกติของผู้ป่วยได้จากอาการตัวบวม ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ เมื่อตรวจปัสสาวะมักพบเม็ดเลือดแดงหรือโปรตีนปนออกมาด้วย

 

สาเหตุ

     อาการไตวายเฉียบพลันมักเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย เช่น การได้รับสารพิษ ผลข้างเคียงจากยา การรับประทานยาเกินขนาด หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม

 

 


อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็สามารถมีโอกาสที่ไตจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้

 

 

2.  ภาวะไตวายเรื้อรัง

     ภาวะไตวายเรื้อรัง คือภาวะที่ไตเริ่มเสื่อมสภาพการทำงานทีละน้อยอย่างต่อเนื่องหลายปี ส่วนใหญ่เกิดจากโรคเรื้อรังอื่น เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ไตอักเสบ โรคถุงน้ำในไต

 

หลักสังเกตและอาการของโรค

     ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรังส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการผิดปกติให้เห็นในระยะแรก แต่สามารถสังเกตความผิดปกติจากการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีเม็ดเลือดแดงและโปรตีนปนออกมาด้วย ต่อมาจะค่อย ๆ แสดงความผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ น้ำหนักลด บวม โลหิตจาง ระบบประสาทผิดปกติ

 

 


อาการเหล่านี้จะเพิ่มความรุนแรงและแสดงอาการชัดเจนขึ้นเมื่อไตทำงานได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 25

 

 

 

ตรวจสุขภาพ ไต

 

 

 

5 กลุ่มเสี่ยงไม่ควรเลี่ยงตรวจสุขภาพไต

     โรคไตไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่ยังสามารถเกิดขึ้นในกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

1.  ผู้ที่มีโรคประจำตัว

     ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) และโรคนิ่ว

 

2.  ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต

     ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต รวมถึงโรคถุงน้ำในไต และโรคนิ่วในไต ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

 

3.  ผู้ที่สูบบุหรี่

     ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคไตมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายสูงถึงร้อยละ 60

 

4.  ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ

     ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ การรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นประจำสามารถกระตุ้นให้การทำงานของไตเกิดความผิดปกติได้โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง

 

5.  ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย

     ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยหรือมากเกินไป เนื่องจากไตต้องใช้น้ำในการฟอกของเสียในร่างกายออกมาเป็นปัสสาวะ หากร่างกายขาดน้ำ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ

 

9 สัญญาณอันตรายของผู้ป่วยโรคไต

ผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะเริ่มแรก แต่เมื่อไตได้รับความเสียหายไปมากระดับหนึ่ง อาจเริ่มสังเกตความผิดปกติต่าง ๆ ได้ดังนี้

 

  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผู้ป่วยมักรู้สึกไม่มีแรง น้ำหนักลด ผิวหนังแห้งแตก แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการตัวบวม และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • คลื่นไส้ อาเจียน มีรสขมในปาก เบื่ออาหาร ไม่สามารถรับรสอาหารได้ตามปรกติ
  • หายใจลำบาก บางรายมีอาการปอดบวม หายใจไม่สะดวก ความดันโลหิตสูง
  • ตัวบวม หัวใจทำงานหนักซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจโตหรือภาวะน้ำคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจหรือปอด
  • ตัวซีด ร่างกายจึงไม่สามารถผลิตฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดงได้ตามปกติ ผู้ป่วยจึงมักมีภาวะโลหิตจาง เกล็ดเลือดเกิดความผิดปรกติ เลือดออกง่าย เกิดจ้ำเลือดตามตัว
  • ชาที่ปลายมือและปลายเท้า อาการปลายประสาทเสื่อมส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชา ปวดบริเวณบั้นเอว กล้ามเนื้อกระตุก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ปัสสาวะมักมีสีจาง โดยผู้ป่วยมักปัสสาวะได้น้อยลงเมื่อไตเสื่อมสภาพมากขึ้น
  • กระดูกเสื่อมและเปราะบาง ไตมีส่วนช่วยสังเคราะห์วิตามินดี ซึ่งมีผลถึงกระดูก ผู้ป่วยโรคไตจึงเกิดภาวะกระดูกพรุนร่วมด้วย
  • ติดเชื้อง่าย ผู้ป่วยโรคไตมักมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ง่าย
  • ฮอร์โมนเพศผิดปรกติ ผู้หญิงมักทำให้ประจำเดือนผิดปกติ ส่วนผู้ชายมักพบว่าเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

 

ดูแลสุขภาพไตอย่างไรให้แข็งแรง

การดูแลร่างกายเพื่อป้องกันโรคไต สามารถเริ่มต้นด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

  • ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เฉลี่ยวันละ 8-10 แก้ว
  • รับประทานอาหารที่สะอาด มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและไขมันต่ำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด หวานจัด และเผ็ดจัด
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหรือสมุนไพรติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น
  • ดูแลควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจคัดกรองไตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

 

รักษาโรคไตกับหมอเฉพาะทาง โรงพยาบาลรามคำแหง

     หมอเฉพาะทางโรคไตจากโรงพยาบาลรามคำแหงพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัย ดูแลให้คำปรึกษาผู้ที่มีความเสี่ยง และรักษาผู้ป่วยโรคไตทุกชนิด ทั้งผู้ป่วยภาวะไตวายเฉียบพลัน และไตวายเรื้อรัง โดยมุ่งเน้นการป้องกันและชะลอการเสื่อมของไต เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน รวมถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นหัวใจหลัก