เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ไตไม่ได้มีเพียงหน้าที่ขับของเสีย แต่ยังปรับสมดุลเกลือแร่และควบคุมฮอร์โมนด้วย เมื่อไตผิดปกติ จะส่งผลกระทบเกือบทุกระบบในร่างกาย การดูแลสุขภาพไตจึงสำคัญมาก เราสามารถเริ่มดูแลไตได้ง่าย ๆ ด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเกิดโรค รวมถึงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม เพื่อให้มีสุขภาพไตที่ดีและยืดอายุการใช้งานของไตไปนาน ๆ
ทำความรู้จักกับ ‘โรคไต’ โดยปกติ ไตจะทำหน้าที่กำจัดของเสียและสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย รวมไปถึงดูแลการหลั่งฮอร์โมน ควบคุมน้ำและแร่ธาตุในร่างกายให้สมดุล แต่เมื่อการทำงานของไตเกิดความผิดปกติ เกิดความเสียหาย หรือทำงานได้น้อยลง ก็ย่อมส่งผลให้ของเสียตกค้างอยู่ในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคไต ภาวะไตเสื่อม และหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจก่อให้เกิดภาวะไตวายได้ ซึ่งโรคไตแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
ภาวะไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในช่วงระยะเวลาวันหรือสัปดาห์ และมีอาการรุนแรงกว่าภาวะไตวายเรื้อรัง ในเบื้องต้น สามารถสังเกตอาการผิดปกติของผู้ป่วยได้จากอาการตัวบวม ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ เมื่อตรวจปัสสาวะมักพบเม็ดเลือดแดงหรือโปรตีนปนออกมาด้วย
อาการไตวายเฉียบพลันมักเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย เช่น การได้รับสารพิษ ผลข้างเคียงจากยา การรับประทานยาเกินขนาด หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็สามารถมีโอกาสที่ไตจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้
ภาวะไตวายเรื้อรัง คือภาวะที่ไตเริ่มเสื่อมสภาพการทำงานทีละน้อยอย่างต่อเนื่องหลายปี ส่วนใหญ่เกิดจากโรคเรื้อรังอื่น เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ไตอักเสบ โรคถุงน้ำในไต
ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรังส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการผิดปกติให้เห็นในระยะแรก แต่สามารถสังเกตความผิดปกติจากการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีเม็ดเลือดแดงและโปรตีนปนออกมาด้วย ต่อมาจะค่อย ๆ แสดงความผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ น้ำหนักลด บวม โลหิตจาง ระบบประสาทผิดปกติ
อาการเหล่านี้จะเพิ่มความรุนแรงและแสดงอาการชัดเจนขึ้นเมื่อไตทำงานได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 25
โรคไตไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่ยังสามารถเกิดขึ้นในกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) และโรคนิ่ว
ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต รวมถึงโรคถุงน้ำในไต และโรคนิ่วในไต ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคไตมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายสูงถึงร้อยละ 60
ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ การรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นประจำสามารถกระตุ้นให้การทำงานของไตเกิดความผิดปกติได้โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยหรือมากเกินไป เนื่องจากไตต้องใช้น้ำในการฟอกของเสียในร่างกายออกมาเป็นปัสสาวะ หากร่างกายขาดน้ำ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
ผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะเริ่มแรก แต่เมื่อไตได้รับความเสียหายไปมากระดับหนึ่ง อาจเริ่มสังเกตความผิดปกติต่าง ๆ ได้ดังนี้
การดูแลร่างกายเพื่อป้องกันโรคไต สามารถเริ่มต้นด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
หมอเฉพาะทางโรคไตจากโรงพยาบาลรามคำแหงพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัย ดูแลให้คำปรึกษาผู้ที่มีความเสี่ยง และรักษาผู้ป่วยโรคไตทุกชนิด ทั้งผู้ป่วยภาวะไตวายเฉียบพลัน และไตวายเรื้อรัง โดยมุ่งเน้นการป้องกันและชะลอการเสื่อมของไต เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน รวมถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นหัวใจหลัก