Messenger

รู้วิธีป้องกันโรคไข้รูมาติก ก่อนลุกลามถึงแก่นกลางของหัวใจ

July 03 / 2025

ไข้รูมาติก ป้องกัน

 

 

 

     ‘สเตรปโตคอคคัส’ อาจเป็นชื่อที่หลายคนเคยได้ยินบ้างเมื่อเกิดการระบาด ญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ เมื่อได้รับเชื้อ ร่างกายของแต่ละคนย่อมตอบสนองเป็นโรคที่แตกต่างออกไป การเข้าพบแพทย์เมื่อเกิดโรคนั้นสำคัญมาก โดยไม่ควรปล่อยไว้ให้ลุกลาม เพราะโรคไข้รูมาติกอาจเกิดกับเรา

 

เชื้อสเตรปโตคอคคัสชนิด A

     สเตรปโตคอคคัสชนิด A เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดคออักเสบและสามารถติดต่อได้ผ่านการสูดละอองฝอยจากการไอจาม การสัมผัสหรือการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งส่งผลให้เกิดผื่นแดงจากโรคไข้อีดำอีแดงหรือโรครุนแรงอื่น เช่น ไข้รูมาติก ไตอักเสบ โดยทั่วไปเชื้อชนิดนี้ก่อโรคได้ 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่ก่อการอักเสบจนเป็นหนอง กลุ่มที่เกิดจากพิษแบคทีเรียหรือภูมิต้านทานที่ผิดปรกติต่อตัวเชื้อ

 

 

 


เมื่อได้รับเชื้อจะเกิดคออักเสบหรือทอนซิลอักเสบ ผู้ป่วยอาจมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ คอแดง โดยอาการเหล่านี้จะหายไปไม่กี่วัน หลังจากหายป่วยในอีก 2 - 3 สัปดาห์ เด็กมีโอกาสเป็นไข้รูมาติก

 

 

โรคไข้รูมาติก

     โรคไข้รูมาติก (Rheumatic Fever) เป็นภาวะจากการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัสกลุ่ม A (Streptococcus Group A) ซึ่งการติดเชื้อดังกล่าวพบมากในเด็กตั้งแต่อายุ 5 - 15 ปี เมื่อเกิดการติดเชื้อบริเวณคอและต่อมทอนซิล การอักเสบอาจลุกลามไปที่บริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ลิ้นหัวใจและอวัยวะอื่น เช่น ข้อต่อ สมอง ผิวหนัง

 

 

 

 

โรคไข้รูมาติก

 

 

ความรุนแรงสู่โรคหัวใจรูมาติก

     โรคไข้รูมาติกเกิดได้ทุกวัย โดยพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่วัยเด็ก การอักเสบในช่วงแรกอาจลุกลามจนเกิดภาวะหัวใจอักเสบและมีโอกาสเกิดลิ้นหัวใจรั่ว หากเป็นเรื้อรังก็อาจส่งผลให้หัวใจตีบและเกิดหัวใจล้มเหลว บางรายอาจได้รับผลกระทบจนหัวใจพิการ ซึ่งเรียกว่า โรคหัวใจรูมาติก

 

 


นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคไข้รูมาติกสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นการรับยาแบบฉีดหรือแบบทานตามที่แพทย์จัดไว้อย่างสม่ำเสมอมีส่วนช่วยลดโอกาสเป็นซ้ำและเกิดภาวะพิการได้ 

 

 

การป้องกันก่อนเป็นโรคไข้รูมาติก

     โรคไข้รูมาติกไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ตัวก่อโรคอย่างเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสชนิด A สามารถติดต่อสู่กันได้ ดังนั้นการป้องกันสามารถเริ่มได้ตั้งแต่สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดและถูกวิธี รักษาระยะ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อและหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดเท่าที่เป็นไปได้ 

 

 

ไข้รูมาติก ป้องกัน

 

 

การป้องกันสำหรับผู้เป็นโรคไข้รูมาติกตามระดับความรุนแรง

กรณีที่ไม่ควรหยุดป้องกันก่อนอายุ 21 ปี

  • กรณีไม่มีอาการหัวใจอักเสบ
  • หัวใจอักเสบที่ไม่รุนแรงหรือไม่มีลิ้นหัวใจรั่วหลงเหลือ

 

กรณีที่ไม่ควรหยุดป้องกันก่อนอายุ 40 ปีหรือตลอดชีวิต

  • มีอาการหัวใจอักเสบที่รุนแรงหรือยังมีลิ้นหัวใจรั่ว

 

 


หากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดโรคลิ้นหัวใจรูมาติก ผู้ป่วยจำเป็นต้องป้องกันไปตลอดชีวิต