Messenger

โรคสมาธิสั้น เมื่อความรักและความเข้าใจคือ ‘ยาใจ’ ที่ทรงอานุภาพ

July 03 / 2025

โรคสมาธิสั้น

 

 

 

     ความซุกซนของเด็กอาจมีสัญญาณของร่างกายคอยเป็นคำอธิบายเบื้องหลัง โรคสมาธิสั้นเป็นอีกหนึ่งโรคที่ได้รับดูแลและรักษาที่ไม่เพียงแค่ยาทางกาย แต่ความรักและความเข้าใจจากคนรอบข้างก็กลายเป็น ‘ยาใจ’ ที่สำคัญของทุกการเยียวยา

 

โรคสมาธิสั้น

     โรคสมาธิสั้น (ADHD : Attention Deficit Hyperavtivity Disorder) เป็นความผิดปรกติของสมองซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้นั้นใน 3 ด้าน ได้แก่ การขาดสมาธิ การอยู่ไม่นิ่ง และการขาดความยั้งคิด ส่วนใหญ่มักเกิดอาการร่วมกันและปรากฏพฤติกรรมในระดับที่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

 

ปัจจัยก่อเกิดโรคสมาธิสั้น

     พันธุกรรมเป็นสาเหตุหลักที่พบเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันการแพทย์ได้พบยีนหลายตัวที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมก็มีส่วน เช่น ได้รับพิษจากสารตะกั่ว การสูบบุหรี่ของคุณแม่ตั้งครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ส่วนการเลี้ยงดูเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น

 

กลไกของการเกิดโรคสมาธิสั้น

     วงการแพทย์เชื่อว่า ‘Executive function’ (EF) และ ‘แรงจูงใจ’ เป็นกลไกหลักเบื้องหลังความผิดปรกตินี้ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของสารสื่อประสาทบางชนิด เช่น โดปามีน นอร์อะดินาลีน นอกจากนี้แพทย์ยังพบความผิดปรกติด้านสมอง 3 ส่วนในผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น ได้แก่ สมองส่วนหน้า ปมประสาทและสมองส่วนเซรีเบรั่มซึ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและการทรงตัว

 

 

 

 

โรคสมาธิสั้น

 

 

 

 

‘EF’ สิ่งชวนฉงนที่ควรรู้ 

     EF (Executive Function) คือการทำงานขั้นสูงของสมองโดยอาศัยกระบวนการควบคุมตัวเอง การกำหนดเป้าหมายและการคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงอยู่ซ้ำ ๆ ดังนั้นการจัดกิจกรรมที่สอดรับกับพัฒนาการทางสมองของเด็กในแต่ละวัยมีส่วนส่งเสริมให้เด็กสามารถควบคุมตัวเอง มีความจำพร้อมใช้งานและมีระบบการคิดวิเคราะห์ที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์นั้นได้อย่างดี ที่สำคัญเด็กต้องรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า

 

อาการของโรคสมาธิสั้น

เด็กอาจมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายใน 3 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย

 

  • อาการขาดสมาธิ เช่น  หลงลืม วอกแวก ไม่ทำตามคำสั่ง จดจ่อกับกิจกรรมไม่ได้นาน
  • อาการอยู่ไม่นิ่ง เช่น ซุกซน ส่งเสียงดัง ผุดลุกนั่ง ปีนป่าย ก่อกวนคนรอบข้าง
  • อาการขาดความยั้งคิด เช่น ใจร้อน พูดมาก พูดแทรก ไม่ทนต่อการรอคอยหรือสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ


 


อาการบกพร่องในบางข้ออาจเริ่มปรากฏตั้งแต่ก่อนอายุ 7 ขวบโดยผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจำนวนหนึ่งมีปัญหาทางจิตเวชอื่น เช่น การเรียนรู้บกพร่อง โรควิตกกังวล พฤติกรรมเกเรรุนแรง


 

การวินิจฉัยและการรักษา

     แพทย์จะดูจากประวัติและอาการของเด็ก โดยเริ่มตั้งแต่การถามประวัติพัฒนาการ ประวัติการเลี้ยงดู ประวัติครอบครัว ประวัติความเจ็บป่วยทางกาย ก่อนแพทย์ใช้แบบทดสอบเฉพาะโรคสมาธิสั้นและแบบทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยโรค หลังจากนั้นจึงวางแผนการบำบัดและการรักษาที่เหมาะสม

 

 

 

 

โรคสมาธิสั้น

 

 

รู้ รักและเข้าใจ พร้อมเสริมแรงใจลูก

เนื่องจากเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมีปัญหาเรื่องความสนใจเป็นหลัก ดังนั้น ‘การใส่ใจ’ และ ‘การเข้าใจ’ ซึ่งเสมือนการเข้าไปอยู่ในใจของเด็กเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ โดยเริ่มจากการ

 

  • จัดสภาพแวดล้อมที่สงบและโปร่งสบาย
  • กำหนดแบบแผนประจำวันที่ง่ายในปฏิฑิน
  • แบ่งงานง่าย ๆ ให้เด็กทำทีละน้อยและคอยช่วยเหลือเล็กน้อยให้ทำเสร็จ
  • ฝึกเด็กให้รู้จักการรอคอยและการจัดระเบียบด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
  • ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลหรือเบนความสนใจเมื่อเด็กเริ่มก่อกวน
  • ชื่นชมเด็กเมื่อทำสิ่งใดสำเร็จเพื่อเสริมแรงเชิงบวก