นิ่วในถุงน้ำดี (Gallbladder Stones) เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) หรือคอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในน้ำดี โดยเชื่อว่าการเกิดตกผลึกของสารเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดีและความไม่สมดุลของสารประกอบในน้ำดี โดยปรากฎเป็นก้อนนิ่วเดียวหรือหลายก้อนตามแต่การค้นพบ ซึ่งกลุ่มคนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง สตรีที่มีบุตร ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ธาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตกจะมีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าคนทั่วไป
หลังเกิดนิ่วในถุงน้ำดีอาจเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง คลื่นไส้ เป็นไข้ บางครั้งทำให้มีอาการปวดดิ้นหากนิ่วไปอุดท่อถุงน้ำดี กรณีนิ่วตกลงไปอุดท่อน้ำดีใหญ่จะทำให้มีอาการตาเหลืองตัวเหลืองได้ ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงจึงไม่ควรปล่อยไว้นาน บางรายอาจตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีแต่ไม่มีอาการใด
ทำให้บางทีเข้าใจผิดว่าเป็นโรคแผลในกระเพราะอาหารเนื่องจากมีอาการคล้ายกัน บางรายมาในรูปแบบผลแทรกซ้อนของตัวนิ่วที่เกาะในท่อน้ำดี
อันตรายที่เกิดขึ้นจากนิ่วในถุงน้ำดี จะมีตั้งแต่ตัวถุงน้ำดีเองและส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มาหาแพทย์ขณะมีอาการมักเป็นเรื่องของถุงน้ำดีอักเสบมากที่สุด รองลงมาคือเรื่องของถุงน้ำดี นิ่วในถุงน้ำดีที่เกิดนิ่วอุดตัน ทำให้ตัวเหลืองตาเหลือง เป็นดีซ่าน หรือติดเชื้อในกระแสเลือด
ส่วนผลแทรกซ้อนที่รุนแรงคือโรคตับอ่อนอักเสบ ซึ่งมีโอกาสเกิดภาวะตับอักเสบแทรกซ้อนและโรคมะเร็งในถุงน้ำดี
หากผู้ป่วยมีอาการให้พบแพทย์เพื่อเข้ารับการผ่าตัดทุกราย ปัจจุบันนี้ใช้การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้องซึ่งเป็นมาตรฐาน เนื่องจากมีข้อดีที่ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าการเปิดแผลผ่าตัดปกติ บางรายมาเช้ากลับเย็นหรือค่ำ แต่ส่วนใหญ่ก็อาจพักในโรงพยาบาล 1-2 วัน เพื่อดูความเรียบร้อย
ขอแนะนำว่าพยายามรับประทานอาหารแต่ละมื้อให้ตรงเวลา เลี่ยงการทานมื้อ อดมื้อ เพราะอาจทำให้น้ำดีเข้มข้นมากจนกระทั่งตกตะกอนได้มาก ต้องระวังเรื่องการลดน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว ควรคุมน้ำหนักตัวและเลี่ยงอาหารที่มีไขมันคอเลสเตอรอลสูงเพื่อช่วยลดอาการนิ่วในถุงน้ำดีได้