s วัย 50+ ยังแจ๋วหากใบหน้าไร้ริ้วรอย-คอยระวัง “มะเร็งผิวหนัง”

วัย 50+ ยังแจ๋วหากใบหน้าไร้ริ้วรอย-คอยระวัง “มะเร็งผิวหนัง”

January 19 / 2023

 

วัย 50+ ยังแจ๋วหากใบหน้าไร้ริ้วรอย-คอยระวัง “มะเร็งผิวหนัง”

 

 

                                                                            

 

นัดพบแพทย์คลิก

นพ.พีระพัชร์  ภูรีวิวัตน์

แพทย์ผู้ชำนาญการโรคผิวหนังและเลเซอร์

 

 

“ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในคนอายุเกินกว่า 50 ปี” ที่พบได้บ่อย ๆ มีอยู่ 3 อย่าง แรกสุดที่เป็นปัญหาทั้งทางร่างกายและจิตใจคือ “ริ้วรอย-รอยย่นบนใบหน้า”...ต่อมาคือ... “ปัญหาเรื่องผิวแห้ง”...ผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเรื่องผิวแห้งได้บ่อย...ส่วนปัญหาที่ 3 ซึ่งเป็นอีกอย่างที่เจอได้บ่อยและเป็นอันตรายต่อชีวิตคือ “มะเร็งผิวหนัง”

 

 

 

เป็นโรคมะเร็งผิวหนังแล้วมีอาการอย่างไร?

 

 “มะเร็งผิวหนัง” สำหรับคนไทยแล้วจะมีโอกาสเจอบ่อย 3 ชนิดแล้วแต่ว่าในช่วงวัยหนุ่มสาวของเขานั้นมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใด โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ Basal Cell Carcinoma” ซึ่งมีลักษณะเป็นแผลหรือตุ่มนูน ๆ มีสีคล้ายกับสีผิวหนัง ทำให้ดูยากและเรามักจะคิดว่าเป็นตุ่มนูนซึ่งเกิดจากวัยที่สูงขึ้นทำให้ไม่สนใจ  จนในที่สุดมันกลายเป็นแผลขึ้นมา...อีกชนิดคือ “Squamous Cell Carcinoma” ซึ่งอาจมีสาเหตุจากแสงแดด หรือเกิดจากกินยาต้ม-ยาหม้อก็ได้ ลักษณะเป็นแผลหรือเป็นเนื้อที่งอกนูนโตเร็วกว่าปกติ... ทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถตรวจวินิจฉัยได้โดยแพทย์ผิวหนังและยืนยันด้วยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ

 

ส่วนชนิดที่ 3 เรียกว่า Malignant Melanoma”  ซึ่งจะพบได้ไม่บ่อยเพราะส่วนใหญ่จะเจอในชาวตะวันตกมากกว่าและไม่คิดว่าจะเจอในคนไทย... แต่คนไทยก็สามารถเจอได้เช่นกัน โดยคุณหมอวินิจฉัยด้วยตัวเองมาแล้วรวม 3 ราย... การตรวจวินิจฉัยต้องใช้แว่นขยายกำลังสูงเพื่อดูลักษณะของเนื้องอกว่ามีความเสี่ยงในการเกิดเป็น “Malignant Melanoma” หรือไม่ หากมีความเสี่ยงก็ต้องวางแผนรักษาโดยวิธีตัดออกซึ่งต่างกับมะเร็งสองชนิดแรก คือต้องตัดกว้างและต้องตัดออกให้หมดในคราวเดียวและอาจจะต้องมีการให้ยาหลังการผ่าตัดร่วมด้วยจึงให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด

 

 

 

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง

 

มะเร็งผิวหนังสาเหตุหลักสำคัญก็คือแสงแดด การตากแดดโดยที่ไม่ได้รับการป้องกันตั้งแต่วัยเด็กเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง สำหรับวิธีสังเกตว่าจะเป็นมะเร็งผิวหนัง 2 ชนิดแรก คือ “Basal Cell Carcinoma” กับSquamous Cell Carcinoma”

 

สามารถสังเกตง่าย ๆ ได้เมื่อเห็นตุ่มหรือก้อนที่ผิดปกติอยู่บนบริเวณผิวหนังซึ่งเราไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะกรณีที่แตกเป็นแผลหรือมีเลือดออก ให้รีบมาพบแพทย์ ส่วนวิธีสังเกตง่าย ๆ สำหรับ Malignant Melanoma” ที่เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรงที่สุดจะดูได้จากกรณีที่เห็นว่าไฝเกิดการเปลี่ยนสี หรือขอบของมันเริ่มไม่ชัด ต้องรีบไปพบแพทย์โดยไม่ควรรอสังเกตอาการด้วยตัวเอง

 

 

วิธีการป้องกัน

 

“แสงแดด” เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า รวมทั้ง “มะเร็งผิวหนัง” ก็ด้วยเหตุที่มี “รังสีอัลตราไวโอเลตบี” ซึ่งเป็นคลื่นแสงช่วงคลื่นหนึ่งในช่วงแสงสีม่วงซึ่งเป็นช่วงทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้บ่อย สามารถออกแดดได้โดยไม่ต้องกลัว เพียงแต่หากต้องใช้เวลาอยู่กลางแจ้งนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงก็ต้องหาทางป้องกัน เช่น ใส่หมวก กางร่ม ทาครีมกันแดดให้มากพอโดยไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะขาวมิฉะนั้นจะเท่ากับว่าไม่ได้ป้องกันอะไรเลย

 

 

 

แก้ไข

19/01/2566