การตรวจหาเชื้อ HPV (Human Papillomavirus) เป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ตั้งแต่ไม่มีอาการ ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง การตรวจนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตั้งแต่ไม่มีอาการ ระยะเริ่มแรก จนถึงก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที ในวันนี้ทางโรงพยาบาลรามคำแหงจึงจะมาไขข้อสงสัย และอธิบายรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับตรวจ การวางแผนการดูแลรักษา HPV ให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจ เพราะเรื่องนี้สามารถรับรู้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษา วิธีสังเกตอาการหากได้รับเชื้อ HPV รวมไปจนถึงสถานที่ ๆ ปลอดภัยในการฉีด HPV
เชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่มีเพียง 40 สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ สามารถติดเชื้อจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทั้งจากบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ช่องปากและลำคอ และที่สำคัญ.. มักไม่แสดงอาการ ทั้งยังใช้เวลา 10-20 ปีสามารถพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ด้วย โดยสายพันธุ์สำคัญที่พบโดยทั่วไป ได้แก่
การติดเชื้อมักเกิดจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ ทั้งเพศชายและหญิงสามารถติดเชื้อได้บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ช่องปาก และลำคอ โดยทั่วไปผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการ แต่เชื้ออาจใช้เวลานาน 10-20 ปีในการพัฒนาเป็นมะเร็ง
เนื่องจากผู้ติดเชื้อมักไม่รู้ตัว ทำให้สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว เชื้อ HPV จึงเป็นภัยเงียบที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาเชื้อ HPV แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งในประเทศไทยมีให้เลือก 3 ชนิด
การได้รับวัคซีนเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งจากเชื้อ HPV ร่วมกับการปรับพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์
โรคที่มีโอกาสเกิดหลังจากติดเชื้อ HPV เชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น
เชื้อไวรัส HPV ชนิดสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง เช่น 16, 18 เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก พบได้ในเกือบทุกกรณีของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก (99.7%) โดยเชื้อนี้ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ สายพันธุ์ในกลุ่มความเสี่ยงสูงอาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก ส่วนสายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำทำให้เกิดหูดหงอนไก่
มะเร็งช่องคลอดเป็นมะเร็งที่พบได้น้อย ซึ่งมักเริ่มจากเซลล์ภายในช่องคลอด ปัจจัยเสี่ยงหลัก ได้แก่
เนื่องจากโรคนี้เกี่ยวข้องกับ HPV การฉีดวัคซีนและป้องกันตนเองในขณะมีเพศสัมพันธ์จึงช่วยลดความเสี่ยงได้
มะเร็งทวารหนักมักมีอาการคล้ายริดสีดวง เช่น ขับถ่ายผิดปกติ อุจจาระเล็กลง หรือมีสารคัดหลั่งจากทวารหนัก สาเหตุหลักคือการติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งติดต่อผ่านการสัมผัสหรือเพศสัมพันธ์ ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่
การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค ความรุนแรง และสุขภาพผู้ป่วย
มะเร็งในช่องปากและลำคอ เป็นโรคร้ายที่เกิดขึ้นจากเซลล์ผิดปกติในบริเวณช่องปากและลำคอ เติบโตและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ อาการหลัก ๆ จะมีแผลในช่องปาก พบก้อนเนื้อในปาก เสียงเปลี่ยน มีปัญหาในการกลืน และรู้สึกเจ็บ หรือชาในปาก มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่
หูดหงอนไก่ (Genital warts) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ (low risk) เช่น 6 ,11ที่ทำให้เกิดหูดหรือติ่งเนื้อขรุขระบริเวณอวัยวะเพศ ขาหนีบ หรือทวารหนัก อาจมีอาการคัน แสบร้อน หรือมีตกขาว เชื้อนี้เจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น แม้รักษาได้ แต่เชื้อ HPV จะยังคงอยู่ในร่างกาย การป้องกันทำได้โดยการฉีดวัคซีน HPV
หูดหงอนไก่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6 และ 11 ผ่านการสัมผัสโดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ หรือจากแม่สู่ลูกขณะคลอด เชื้อทำให้เกิดรอยโรคบนผิวหนังหรือเยื่อบุผิวบริเวณอวัยวะเพศ แม้สายพันธุ์ที่ก่อหูดหงอนไก่ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่หากติดเชื้อร่วมกับสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งทวารหนักได้
หูดหงอนไก่สามารถติดต่อได้ผ่านหลายช่องทาง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก รวมถึงการสัมผัสกับบริเวณที่ติดเชื้อ HPV การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน และการทำออรัลเซ็กส์ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น นอกจากนี้ หูดหงอนไก่ยังสามารถส่งต่อจากแม่สู่ลูกในระหว่างการคลอดได้เช่นกัน
ใครที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ต้องเข้าใจก่อนว่า เชื้อ HPV เป็นไวรัสที่แพร่กระจายผ่านทางเพศสัมพันธ์ และแม้จะมีคู่นอนเพียงคนเดียวก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ดังนั้น กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV มากเป็นพิเศษ ได้แก่
วิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV จริงแล้ว ๆ เชื้อ HPV เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพการแต่ก็สามารถป้องกันได้ ซึ่งวิธีป้องกันที่ดีที่สุด มีดังนี้
วัคซีน HPV เป็นเหมือนเกราะป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี
มั่นใจในความปลอดภัยกับการฉีดวัคซีน HPV ที่โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลที่มีมาตรฐานระดับสากล บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และวัคซีนที่ได้รับการรับรอง ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้ถึง 90% แม้จะมีอาการไม่พึงประสงค์บ้าง แต่ก็หายได้เองภายใน 1-2 วัน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือสนใจตรวจสุขภาพสามารถปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลได้โดยตรง