พญ. วิรงรอง เจริญพงษ์
โลหิตวิทยา
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
เมื่อเป็น.." โรคธาลัสซีเมีย " แล้วอันตรายหรือไม่?
"ธาลัสซีเมีย" เป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่งที่เกิดจากเม็ดเลือดผิดปกติ ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้น เปราะ แตก ถูกทำลายง่าย และถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบยีนด้อย จากการที่เกิดจากความผิดปกติของยีนในการควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นสารสำคัญในเม็ดเลือดแดง
จากสถิติพบว่ามีคนไทยที่มียีนผิดปกติประมาณ 24 ล้านคน หรือร้อยละ 40 ผู้ที่มียีนผิดปกติชนิดนี้อยู่ในร่างกายโดยไม่มีอาการ เรียกว่า "พาหะ" ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพาหะ และผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียมีประมาณ 600,000 คน หรือร้อยละ 1
ส่วนคนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะได้รับยีนผิดปกติมาจากพ่อหรือจากแม่คนใดคนหนึ่ง โดยคนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะมีสุขภาพดีเหมือนคนทั่วไป (หรือปัจจุบันเรียกว่าธาลัสซีเมียแฝง) แต่สามารถถ่ายทอดยีนผิดปกติให้ลูกได้
อาการของผู้ป่วยธาลัสซีเมียมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับชนิดของโรคธาลัสซีเมียที่ผู้ป่วยเป็น ตั้งแต่
คนที่ไม่มีอาการ จะรู้ว่าเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่นั้น จากการไปตรวจสุขภาพ แล้วแพทย์ซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจเลือด โดยดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ร่วมกับการตรวจเลือดด้วยวิธีพิเศษ Hb typing และการตรวจวิเคราะห์ DNA
ผู้ที่ตรวจพบว่าเป็นพาหะโรคธาลัสซีเมีย สามารถใช้ชีวิตได้ปกติไม่จำเป็นต้องทานยา ส่วนผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียแล้วการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิด อาการและความรุนแรงของโรค ซึ่งผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียจะต้องรับการดูแลรักษา และติดตามอาการจากแพทย์อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต ซึ่งการจะรักษาให้หายขาดทำได้วิธีเดียว คือการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
เนื่องจากผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียมีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะไปทำลายหัวใจ ทำให้หัวใจล้มเหลวทำลายตับ ทำให้ตับแข็ง และทำลายตับอ่อน ทำให้เป็นเบาหวานได้ จึงต้องมีการตรวจประเมินหาภาวะเหล็กเกินเป็นประจำ รวมถึง
โรคธาลัสซีเมียป้องกันได้โดยการตรวจคัดกรองผู้ที่มียีนแฝงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ซึ่งคู่สมรสที่อยากมีลูก ควรตรวจหาภาวะนี้ที่อาจมีซ่อนอยู่ในตัว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีลูก
“ธาลัสซีเมีย” ป้องกันได้โดยการตรวจคัดกรองผู้ที่มียีนแฝงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ซึ่งคู่สมรสที่อยากมีลูก ควรตรวจหาภาวะนี้ที่อาจมีซ่อนอยู่ในตัว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีลูก
แก้ไขล่าสุด 06/07/63
โลหิตวิทยา