พญ. อริยา ทิมา
อายุรศาสตร์ สาขาประสาทวิทยาและโรคหลอดเลือดสมอง
TMS ทางเลือกใหม่รักษาโรคซึมเศร้า
นัดพบแพทย์คลิก
พญ.อริยา ทิมา
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุกรรมประสาทวิทยา
โรงพยาบาลรามคำแหง
ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยมีภาวะซึมเศร้า บางคนเป็นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ไม่ได้รับการรักษา การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่าคน ๆ นั้นจะเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก เอาแต่ท้อแท้ ซึมเศร้า จริงๆ แล้วมันเป็นอาการของโรค หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคนี้ก็จะทุเลาหรือหายเป็นปกติได้
หากมีอาการเหล่านี้นานกว่า 2 สัปดาห์ก็บ่งชี้ว่ามีอาการของ โรคซึมเศร้า
แพทย์สามารถตรวจทางด้านจิตเวชได้โดยใช้ “การทดสอบทางจิตวิทยา” หรือ Psychological Test ซึ่งเป็นแบบทดสอบมาตรฐานที่ใช้ประเมินพฤติกรรมของผู้ป่วย ประกอบด้วยการทดสอบทางจิตเวชและการทดสอบบุคลิกภาพซึ่งครอบคลุมถึงการตรวจทางด้านจิตใจ ความคิด โดยอาศัยการซักประวัติผู้ป่วยเป็นหลัก ก่อนให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจร่างกายหรือการตรวจเลือดภายในห้องปฏิบัติการเพื่อเอามาตัดโรคบางชนิดที่เป็นเหตุให้เกิดโรคซึมเศร้า เช่น การขาดวิตามินบี 12 หรือภาวะไทรอยด์ผิดปกติ ขณะที่บางรายเป็นโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคอื่นซึ่งสร้างความเจ็บปวดทำให้เกิดภาวะโรคซึมเศร้าตามมา
"มาตรฐานการรักษา" มีส่วนช่วยได้มาก ทุกวันนี้ในวงการแพทย์ได้อาศัยมาตรฐาน 4 อย่างสำหรับเป็นแนวทางการรักษาโรคซึมเศร้า
การทำจิตบำบัดสามารถทำได้ด้วยการให้ผู้ป่วยซึมเศร้าได้พบ “นักจิตบำบัด” ซึ่งอาจใช้เวลา 20-30 ครั้ง เพื่อแกะปมที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ โดยโรคซึมเศร้าเกิดจากการทำงานของสมองในส่วนที่ทำหน้าที่ด้านอารมณ์ลดลง ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
การรักษาด้วยยาอาจเห็นผลรวดเร็วแต่มีข้อเสีย เนื่องจากบางรายทานยาแล้วอาจมีผลข้างเคียง เช่น มีอาการง่วง ใจสั่น ปากแห้ง คอแห้ง
การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) อาศัยหลักการใช้คลื่นแม่เหล็กไปกระตุ้นเซลล์ประสาทบริเวณเปลือกสมองตรงตำแหน่งที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 วันจึงจะเห็นผลเพื่อให้ผู้ป่วยดีขึ้น วิธีนี้เป็นมาตรฐานการรักษาในปัจจุบันซึ่งผ่านการรับรองจาก FDA ของอเมริกาตั้งแต่ปี 2008
Electroconvulsive : ECT เป็นการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นสมอง ซึ่งเปรียบเทียบได้กับลักษณะของการ ปิด-เปิด เครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยการ “รีสตาร์ท”
ส่วนใหญ่จะดีขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะกลับมาเป็นซ้ำสูงมากซึ่งวิธีป้องกันต้องอาศัยหลักการปฏิบัติตัว 3 อย่างประกอบกัน คือ ‘Bio-Psycho-Social’ โดย Bio มีความหมายครอบคลุมเรื่อง “อาหารและการนอน” ซึ่งไม่ควรอดทั้ง 2 อย่าง และยังต้อง “ออกกำลังกาย” เป็นกิจวัตรประจำวันด้วยส่วน Psycho-Social จะกินความถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งมีส่วนต่อการปรับเปลี่ยน ที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยต้องเข้ารับการทำจิตบำบัดร่วมด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
ส่วนการรับประทานยาซึมเศร้าส่วนใหญ่เราจะแนะนำให้ทานคู่ไปด้วยโดยไม่แนะนำให้หยุดยา และควรพบกับผู้เชี่ยวชาญหรือคุณหมอจิตเวชด้วยควบคู่กันไป ถ้าคุณหมอจิตเวชประเมินว่าดีขึ้นแล้วก็อาจลดยาลงได้ หรือเมื่อได้ทำ TMS แล้วจะลดยาได้หรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่ต้องคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ให้ชัดเจนตรงกันได้เช่นกัน
การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก เอาแต่ท้อแท้ ซึมเศร้า จริง ๆ แล้วเป็นอาการของโรค หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคนี้ก็จะทุเลาหรือหายเป็นปกติได้
โรคซึมเศร้า กับการรักษาด้วยเทคโนโลยี TMS
อายุรศาสตร์ สาขาประสาทวิทยาและโรคหลอดเลือดสมอง