Messenger

hMPV ไวรัสตัวร้าย เสี่ยงปอดอักเสบ

July 10 / 2025

hMPV โรคปอด

 

 

     ในช่วงที่หลายคนให้ความสนใจกับไวรัส RSV และไข้หวัดใหญ่ อีกหนึ่งไวรัสที่กำลังพบมากขึ้นในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุคือ hMPV หรือ Human Metapneumovirus ไวรัสชนิดนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่วนใหญ่ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัด แต่ในบางรายอาจเป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจที่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อภาวะ ปอดอักเสบ

 

hMPV คืออะไร?

     hMPV (Human Metapneumovirus) เป็นไวรัสในกลุ่มเดียวกับ RSV (Respiratory Syncytial Virus) พบว่ามีความแตกต่างในลักษณะทางโครงสร้าง จึงแยกออกจากกันชัดเจน อย่างไรก็ตาม ลักษณะการระบาดคล้ายคลึงกันมากในประเทศไทย คือพบมากในช่วยปลายฤดูฝนต่อฤดูหนาว

 

ระยะแพร่เชื้อ hMPV 

     hMPV ได้รับการค้นพบครั้งแรกในปี 2001 ที่ประเทศเนเธอแลนด์ ก่อให้เกิดอาการและอาการแสดงบางอย่างที่คล้ายคลึงกันได้ในการติดเชื้อไวรัสสองชนิดนี้ ระยะฟักตัวหลังจากสัมผัสเชื้อ ประมาณ 3-6 วัน ระยะแพร่เชื้อจากผู้ป่วยได้นาน 1-2 สัปดาห์

 

เกิดได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

     อาการที่พบได้มีทั้งการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน เช่น อาการคล้ายไข้หวัด และการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ภาวะหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบจัดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ที่พบได้บ่อยขึ้นในระยะหลัง

 

กลุ่มเด็กและผู้สูงอายุนั้นน่าเป็นห่วง

     โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมักเป็นการติดเชื้อครั้งแรก ผู้ป่วยจึงอาจมีอาการแสดงที่รุนแรงได้ รวมไปถึงในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ปอด หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ยังพบว่าสามารถเกิดการติดเชื้อซ้ำ หรือ re-infection ได้

 

ไวรัสตัวนี้ติดต่ออย่างไร?

  • ละอองฝอยจากการไอหรือจาม
  • การสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ
  • การสัมผัสมือกับสิ่งของ และบนพื้นผิวต่างๆที่มีเชื้อแล้วนำมาขยี้ตาหรือจับปาก จมูก

 

 

 

hMPV โรคปอด

 

 

 

อาการของการติดเชื้อ hMPV

อาการของผู้ป่วยจะคล้ายกับไข้หวัดหรือการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย

 

  • หายใจเสียงดัง "ครืดคราด" หรือมีภาวะหลอดลมตีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนไข้ที่มีโรคหอบหือ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือถุงลมโป่งพองมาก่อน
  • บางรายอาจมีอาการคล้ายหลอดลมฝอยอักเสบ  หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบร่วมด้วย
  • อาการทางเดินอาหาร เช่น ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน อาจพบร่วมได้เช่นกัน

 

การวินิจฉัย

ปัจจุบันทำได้โดยการทำ nasal swab และส่งตรวจด้วยวิธี antigen testing และ PCR

 

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มี ยาต้านไวรัสเฉพาะสำหรับ hMPV การรักษาเน้นไปที่การรักษาตามอาการ

 

  • ให้ยาลดไข้
  • ให้สารน้ำอย่างเพียงพอ
  • ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนมากๆ
  • หากมีอาการหายใจลำบาก อาจต้องให้ออกซิเจน หรือพ่นยาเพื่อขยายหลอดลม
  • ผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล

 

แม้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับ hMPV แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการ

  • หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ระยะเวลาอย่างน้อย 20 นาที
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส ตา จมูก หรือ ปาก ถ้ายังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการทางเดินหายใจ
  • หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่แออัด
  • ทำความสะอาดของเล่นและอุปกรณ์ที่เด็กใช้เป็นประจำ เนื่องจากเชื้อสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมได้เพียง 2-3 ชั่วโมง และถูกทำลายโดยง่ายด้วยสบู่ และน้ำยาฆ่าเชื้อ
  • หากเด็กป่วย ควรให้หยุดเรียนเพื่อพักฟื้นและป้องกันการแพร่เชื้อ

 

บททิ้งท้ายจากอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ

     hMPV อาจดูเหมือนไวรัสเล็กๆ แต่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการไข้ ไอ หายใจเร็ว หรือเหนื่อยง่าย ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม เพราะการรักษาตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้