เหนื่อยนัก ก็พักบ้าง แชร์ 7 วิธี ฮีลใจสำหรับวัยทำงาน

January 09 / 2025

 

เหนื่อยนัก ก็พักก่อน แชร์ 7 วิธี  ฮีลใจสำหรับวัยทำงาน

- ทำไม?...การตื่นเช้าไปทำงานมันทรมานจัง

- ทำไม?...ฉันทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม

- ฉันกำลังเป็นซึมเศร้าหรือป่าวนะ!

 

 

วิธีฮีลใจ

 

 

 

     ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ถือเป็นเรื่องปกติที่คนทำงานทุกคนมีโอกาสเป็นได้ แม้เราจะสตรองแค่ไหน แต่ถ้าสะสมความเครียดทีละเล็กละน้อย ก็อาจทำให้สุขภาพจิตเสียและเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นเรามาเริ่มเยียวยาตัวเองให้ผ่อนคลาย มีความสุขเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน กับ 7 วิธีง่าย ๆ ที่จะฮีลใจตัวเองให้กลับมามีพลังบวกอีกครั้ง คนทำงานอย่างเราๆ ได้มีแรงกายแรงใจ ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า มาลองทำไปด้วยกันนะครับ

 

 

 

 

7 วิธีฮีลใจสำหรับคนวัยทำงาน

1.  Exercise ออกกำลังกายเรียกเอ็นโดรฟิน

     หลังจากเลิกงานกันแล้ว ลุกขึ้นมาขยับแขนขยับขากันหน่อย ถ้ามัวแต่ทิ้งตัวลงบนเตียงเป็นผัก จะยิ่งทำให้จิตใจรู้สึกดาวน์ลง ให้ลองวิ่งสัก 15 นาที หรือ คาร์ดิโอเบาๆ เรียกเหงื่อ สัก 30 นาที พยายามฝืนตัวเองทำดู นอกจากจะเรียกเหงื่อได้แล้ว ยังทำให้เราเปลี่ยนโฟกัส ทิ้งเรื่องที่เครียดมาทั้งวันไปแบบไม่รู้ตัว แถมหลังจากออกกำลังเสร็จร่างกาย จะหลั่งสารสารแห่งความสุข เอ็นโดรฟิน ออกมาทำให้รู้สึกมีความสุข คลายเครียด และดีต่อสุขภาพมากๆ เลย
 

 

2.  Meditate ฝึกนั่งสมาธิให้จิตใจสงบ

     รู้ไหมครับว่าการนั่งสมาธิให้ได้สักวันละ 15 นาที เช้า-เย็น นอกจากจะทำให้จิตใจสงบแล้ว สมองยังแจ่มใส ผ่อนคลายความเครียดลงได้ และส่งผลให้ร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีงานวิจัยยืนยันแล้วด้วย
 

3.  Work Life Balance แยกเวลางานและเวลาส่วนตัว

     การที่คนทำงานเกิดความรู้สึกหมดไฟ ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำงานหนักจนเกินเวลาส่วนตัว จนทำให้ไม่เวลาพักผ่อนไม่มีเวลาให้กับชีวิตส่วนตัวเลย ดังนั้นต้องแยกให้ออกเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว กำหนดให้ชัดเจน จัดสรรให้ลงตัวให้ได้ เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีความเครียดจากการทำงานตลอดเวลา ก็ทำลายสุขภาพจิตคุณไปหมดแล้ว
 

 

 


วิธีฮีลใจวิธีฮีลใจวิธีฮีลใจ

 

 

 

4.  Relax พัก ปล่อยใจไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ

     เวลาหลังเลิกงาน ให้ปล่อยใจไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง เช่น ดูซีรีส์ ดูหนัง ดูละคร ดูอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย หรือจะนอนฟังเพลงเพราะ ๆ ชิลล์ ๆ จะช่วยให้สมองผ่อนคลายจากความเครียดความเหนื่อยล้าลงได้

 

5.  Positive Thinking เปลี่ยนวิธีคิด

     แค่เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตก็เปลี่ยน หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้ การคิดบวกนั้นไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการยอมรับและเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายหรือดี ก็พร้อมปรับตัว และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามมองหาข้อดีของทุกอย่าง คนที่มี Positive Thinking จะเป็นคนที่มีความสุขมากหากใครได้อยู่ใกล้ๆ ก็จะพลอยได้รับพลังงานบวกและมีความสุขไปด้วย

 

6.  Travel ออกเดินทางเปิดมุมมองใหม่ๆ

     การเดินทางเป็นการเยียวยาตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะเราจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ไปในที่ที่ไม่เคยไป ไปสัมผัสเรื่องราวระหว่างการเดินทาง อยู่เงียบๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ทะเล ภูเขา ได้ยินเสียงตัวเองมากขึ้น การเดินทางนอกจากจะให้ประสบการณ์มากมายกับเราแล้ว ยังทำให้เราทิ้งและปล่อยวางความเครียดทุกอย่างลงได้

 

7.  พูดคุยระบายกับคนที่ไว้ใจได้ หรือปรึกษาจิตแพทย์

     เมื่อมีความรู้สึกไม่สบายใจหรือเครียดจากงานจนหาทางออกไม่เจอ หากเป็นเช่นนั้นให้ลองคุยกับเพื่อนหรือคนรอบข้างดูก่อน การพูดคุยระบายกับคนที่พร้อมรับฟังคนที่ไว้ใจได้ อาจช่วยให้เราสบายใจขึ้น เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำให้เราไม่ต้องแบกความรู้สึกไว้ทั้งหมดคนเดียว อีกทางเลือกหนึ่งคือการพบจิตแพทย์ การพบจิตแพทย์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการพูดคุยปรึกษาและรับคำแนะนำที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้เรากลับมาเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ มีไฟในการทำงานอย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง

 

 


วิธีฮีลใจวิธีฮีลใจวิธีฮีลใจวิธีฮีลใจ

 

 

 


ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการฮีลใจที่นำมาฝาก ยังไง! ก็ลองนำไปใช้และทำให้ติดเป็นนิสัยกันดูนะครับ ที่สำคัญคือการจัดการความเครียด อะไรที่หนักเกินไปก็วางบ้าง อย่าลืมยิ้มหัวเราะให้ได้ในทุกๆ วัน สร้างรอยยิ้มจากเรื่องเล็กๆ รอบตัวให้ได้ แค่นี้คุณก็จะมีไฟในชีวิตการทำงานมากขึ้นและรู้สึกมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ...


 

 

แก้ไข

29/09/2566