5 พฤติกรรมเสี่ยงเบาหวานและแผลเบาหวานที่คุณไม่รู้ตัว

     ‘โรคเบาหวาน’ เป็นภาวะผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ตามปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นก่อให้เกิดแผลเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาหลายอย่าง อาทิ โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดและภาวะแทรกซ้อน ดังนั้น การดูแลสุขภาพ และปรับพฤติกรรมให้ถูกสุขลักษณะตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญเพื่อให้มีสุขภาพดี หลีกเลี่ยงอันตรายและภัยจากโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้มาก่อน

5 พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อห่างไกลเบาหวาน

5 พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อห่างไกลเบาหวาน ได้แก่

1.  ภาวะอ้วนและไขมันสูง

     ผู้มีน้ำหนักเกิน มีภาวะอ้วนและไขมันสูง และผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงเกินปกติ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานของมัน ของทอด หรือของหวาน ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อมีภาวะไขมันสูง ย่อมส่งผลให้ตับอ่อนต้องทำงานหนัก ร่างกายจึงผลิตอินซูลินได้น้อยลงกว่าปกติ และไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา

2.  ความเครียดสะสม

     เมื่อเรารู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) และฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดโดยตรง โดยเมื่อฮอร์โมนเหล่านี้ถูกหลั่งออกมา ก็จะยิ่งไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น

3.  การรับประทานอาหารรสจัด

     การรับประทานอาหารรสจัด โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสหวาน หรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ทำให้เกิดการสะสมของปริมาณสารอาหารที่ไม่จำเป็นไว้ในร่างกาย ซึ่งในระยะยาว มักส่งผลเสียต่อระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของอินซูลิน

4.  การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

     การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำสามารถส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ เนื่องจากตับ ซึ่งมีหน้าที่กำจัดแอลกอฮอล์ต้องทำงานอย่างหนัก จนเกิดการอักเสบและสะสมของไขมันในตับ กลายเป็นภาวะไขมันพอกตับ ส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งถือเป็นภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน

5.  ไม่ออกกำลังกาย

     การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของการเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ เป็นการช่วยเพิ่มการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลิน และยังช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย ดังนั้น ผู้ที่ไม่ชอบออกกำลังกายจึงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

สัญญาณเตือน เบาหวานมาเยือนหรือยังนะ?

วิธีสังเกตว่าสัญญาณเตือน เบาหวานมาเยือนหรือยัง ผู้ที่มีความเสี่ยง หรือมีประวัติครอบครัวสายตรงเป็นโรคเบาหวานควรหมั่นสังเกตร่างกายตนเองและเรียนรู้สัญญาณเตือนต่าง ๆ ดังนี้

• รู้สึกกระหายน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ
• ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
• หิวบ่อย
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
• มองเห็นไม่ชัด สายตาพร่ามัว
• รู้สึกอ่อนเพลีย
• มีแผลเรื้อรัง หรือหายช้ากว่าปกติ
• รู้สึกปวดแสบ ปวดร้อน หรือชาบริเวณปลายมือหรือปลายเท้า
• ผิวหนังเป็นขุย แห้ง คัน

แพ็กเกจคัดกรองเบาหวาน โรงพยาบาลรามคำแหง

     สำหรับแพ็กเกจคัดกรองเบาหวาน โรงพยาบาลรามคำแหง ขอแนะนำแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน (ชาย-หญิง) ราคา 4,890 บาท รายละเอียด