เช็กให้กระจ่าง อาการแบบไหนที่ควรต้องเข้ารับการผ่าตัดไซนัส

April 11 / 2025

อาการแบบไหน ควรเข้ารับผ่าตัดไซนัส

 

 

 

 

     เคยรู้สึกปวดหัวเรื้อรัง น้ำมูกไหลไม่หยุด หรือมีอาการคัดจมูกเรื้อรังจนรบกวนชีวิตประจำวันไหม อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไซนัสอักเสบ วิธีการรักษาไซนัสมีอยู่มากมาย ในบางกรณี การผ่าตัดอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการรักษา แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรเข้ารับการผ่าตัดไซนัส มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกัน เพื่อให้คุณเข้าใจถึงอาการที่บ่งบอกว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วันนี้จึงจะมาแนะนำให้เห็นว่าอาการแบบไหนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดแน่ ๆ บ้าง และมีวิธีการผ่าตัดอย่างไร รวมถึงทำไมเราถึงควรเลือกการผ่าตัดแบบกล้องเอ็นโดสโคป

 

เมื่อใดที่เราต้องรักษาไซนัสโดยการผ่าตัด

     เมื่อเป็นเรื้อรังและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่หาย หากผู้ป่วยมีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรังหรือเฉียบพลันที่รักษาด้วยยาไม่หาย เช่น ริดสีดวงจมูกที่รักษาด้วยยานาน 1-3 เดือนแล้วไม่ได้ผล การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยแพทย์รักษาไซนัสด้วยการผ่าตัด ก็ต่อเมื่อเกิดปัจจัยดังนี้

 

1.  เมื่อมีโรคแทรกซ้อน

     การผ่าตัดจำเป็นในกรณีที่การติดเชื้อไซนัสลุกลามเข้าสู่ดวงตาหรือสมอง หรือเมื่อแพทย์สงสัยว่าเป็นเนื้องอกหรือไซนัสอักเสบจากเชื้อรา

 

2.  เมื่อสงสัยว่าเป็นเนื้องอก

     หากแพทย์สงสัยว่ามีเนื้องอกในไซนัส การผ่าตัดจะเป็นทางเลือกในการรักษาเพื่อตรวจสอบและกำจัดเนื้องอก

 

3.  เมื่อเป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อรา

     เนื่องด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ก้าวหน้า การใช้กล้องเอ็นโดสโคปในการผ่าตัดสามารถแก้ไขการอุดตันของรูไซนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ และไม่ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ที่ใบหน้า

 

ประเภทของการผ่าตัดรักษาไซนัส

ประเภทของการผ่าตัดรักษาไซนัส ปัจจุบันเทคโนโลยีการผ่าตัดได้พัฒนาไปมาก โดยการใช้กล้องเอ็นโดสโคป (Full House FESS) ส่องผ่านจมูกเพื่อเปิดโพรงไซนัสและแก้ไขการอุดตันของรูระบายไซนัส

 

1.  การผ่าตัดด้วยการใช้บอลลูนขยาย

      การผ่าตัดด้วยการใช้บอลลูนขยายเป็นวิธีการขยายรูระบายไซนัสโดยใช้บอลลูน ซึ่งช่วยลดการอุดตันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในไซนัส โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่
 

2.  การผ่าตัดรักษาไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (FESS และ Full House FESS) 

     FESS และ Full House FESS เป็นการผ่าตัดที่ใช้กล้องเอ็นโดสโคปส่องเข้าทางจมูกเพื่อเปิดโพรงไซนัสทั้งหมด ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นบริเวณที่ผ่าตัดได้อย่างชัดเจน วิธีนี้ช่วยขจัดมูกและหนองที่ขังอยู่ เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ และพ่นยารักษาได้อย่างทั่วถึง ลดภาวะแทรกซ้อน เลือดออกน้อย ฟื้นตัวเร็ว และไม่มีแผลผ่าตัดภายนอก

 

 

 

ผ่าตัดไซนัส

 

 

 

ประสิทธิภาพในการรักษา

     การผ่าตัดไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Functional Endoscopic Sinus Surgery หรือ Full House FESS) ช่วยให้แพทย์สามารถเปิดโพรงไซนัสและขจัดมูกเหนียวและหนองที่อุดตันอยู่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การรักษาได้ผลดี ลดการอักเสบ และช่วยให้อาการไซนัสอักเสบเรื้อรังดีขึ้นอย่างตรงจุด

 

1.  ลดความเสี่ยงและการบาดเจ็บ

     เนื่องจากการผ่าตัดใช้รูจมูกเป็นทางเข้า ทำให้ไม่มีแผลภายนอก การบาดเจ็บน้อยลง และมีโอกาสหายขาดสูงกว่าการรักษาด้วยวิธีดั้งเดิม นอกจากนี้ การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคปยังช่วยลดการเสียเลือด และไม่จำเป็นต้องใส่วัสดุห้ามเลือดในจมูกหลังการผ่าตัด

 

2.  ความปลอดภัยและความแม่นยำสูง

     กล้องเอ็นโดสโคปมีความละเอียดสูง ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นรอยโรคและบริเวณที่ผ่าตัดได้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การบาดเจ็บต่ออวัยวะใกล้เคียงอย่างตาและสมอง

 

3.  เปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม

     เมื่อเทียบกับการผ่าตัดรักษาไซนัสแบบดั้งเดิม การใช้กล้องเอ็นโดสโคปทำให้การรักษาโรคไซนัสมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ เนื่องจากแพทย์สามารถเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในโพรงไซนัสได้ดีขึ้น

 

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัดรักษาไซนัส

     หลังการผ่าตัดรักษาไซนัส การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะใส่วัสดุห้ามเลือดในโพรงไซนัส ซึ่งผู้ป่วยยังสามารถหายใจทางจมูกได้ แต่ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีเลือดไหลออกมาเมื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การลุกนั่งหรือการก้ม เลือดที่ออกมามักเป็นเลือดเก่าผสมกับน้ำยาที่ใช้ล้างในโพรงไซนัส ซึ่งไม่ต้องกังวลเกินไป

 

การหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกและไอแรง

     เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและช่วยให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การแคะหรือกระทบกระเทือนบริเวณจมูก รวมถึงการไอแรง ๆ หรือการออกแรงต่าง ๆ เช่น การยกของหนัก นอกจากนี้ ไม่จำเป็นต้องล้างจมูกเอง เพราะแพทย์จะให้ยาพ่นเพื่อทำความสะอาดแผลในโพรงไซนัสแทน

 

 

 


การปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัดจะช่วยให้การรักษาประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจติดตามผลการรักษากับแพทย์ตามนัดหมายอย่างเคร่งครัด


 

 

คำแนะนำจากแพทย์

นอกจากนี้ การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วและป้องกันภาวะแทรกซ้อน คำแนะนำสำคัญมีดังนี้

 

  • นอนศีรษะสูง ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด ควรนอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวมและเลือดออก ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือแคะจมูกอาจทำให้เกิดความดันในบริเวณรอบดวงตาและอาจทำให้การมองเห็นเบลอได้ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้
  • จิบน้ำบ่อย ๆ การจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้น้ำมูกในโพรงจมูกอ่อนตัวลง ทำให้กำจัดออกได้ง่ายขึ้น ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องและหลีกเลี่ยงน้ำเย็นจัดหรือน้ำอุ่นจัด
  • พบแพทย์ตามนัด ควรพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อให้แพทย์ติดตามอาการอย่างต่อเนื่องและให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแผลจนกว่าจะหายดี

 

 

ผ่าตัดไซนัส

 

 

ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องหู คอ จมูกพร้อมดูแลคุณ

     ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องหู คอ จมูก โรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังด้วยวิทยาการแพทย์สมัยใหม่ โดยมุ่งเน้นชีวิตของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติหลังการผ่าตัด โรงพยาบาลรามคำแหงจึงขอมอบการดูแลผู้ป่วยและบุคคลใกล้ชิดให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่กับเรา