วิตามินดีมีความสำคัญในการลดความรุนแรงของ COVID-19

February 24 / 2025

วิตามิน โควิดวิตามิน โควิด

 

พญ.ศรีกร จินะดิษฐ์

อายุรแพทย์ระบบต่อมไร้ท่อ

 

 

 

     วิตามินดีเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากเรื่องของการสร้างกระดูกอย่างที่เราเคยเรียนสุขศึกษาตอนเด็ก ๆ วิตามินดียังมีบทบาทสำคัญ ในขบวนการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บทความนี้จะพูดถึงประเด็นเรื่องวิตามินดีกับการลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของอาการหลังติดโควิด-19
 

 

วิตามินดีสำคัญอย่างไร

     วิตามินดี เป็นวิตามินที่พบในอาหารจำพวกปลา เนื้อสัตว์ นม ถั่วเมล็ดแข็ง และร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้จากการรับรังสีอัลตราไวโอเล็ตจากแสงแดด แต่ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงการป้องกันแสงแดดเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังและภาวะแก่ก่อนวัย ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ขาดวิตามินดี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมือง 

 

 

 

วิตามินดี โควิด



การขาดวิตามินดีส่งผลต่อผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อย่างไร

     การขาดวิตามินดีอาจทำให้ติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น และเมื่อติดเชื้อแล้วกลไกในการกำจัดเชื้อ หรือ immune response ของร่างกายในคนที่มีวิตามินดีเพียงพอจะดีกว่าคนที่ขาดวิตามินดี 

 

กลไกเร่งระดับอาการของผู้ป่วยโควิด-19

     กลไกการเกิดอาการรุนแรงของผู้ป่วย COVID-19 ไม่เพียงแต่เกิดจากตัวไวรัสโดยตรง แต่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อตัวเชื้อ โดยเม็ดเลือดขาวจะปล่อยสารเคมีที่กระตุ้นการอักเสบออกมามากเกินกว่าจะควบคุม ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า "พายุไซโตไคน์ (Cytokine Storm)" ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เนื้อเยื่อปอดได้รับความเสียหายจนเกิดภาวะหายใจล้มเหลว
 

 


วิตามินดี มีผลต่อการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจรวมถึงการควบคุมการอักเสบไม่ให้เกิดมากเกินไปจนทำลายเนื้อเยื่อ



 

วิตามินดีมีส่วนลดอัตราการติดเชื้อ

    งานวิจัยจาก Irish Medical Journal พบว่ามีอัตราการตายและอัตราการติดเชื้อในประเทศแถบสเปน อิตาลี่ และยุโรปตอนใต้มีสูงมีส่วนสัมพันธ์สูง กล่าวคือ แม้ประเทศแทบนั้นมีแสงแดดและความอบอุ่น แต่ก็ยังมีสัดส่วนของคนที่ขาดวิตามินดีสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะที่ยุโรปตอนเหนือ เช่น กลุ่มประเทศนอร์ดิก กลับมีอัตราตายและอัตราการติดเชื้อต่ำกว่า เพราะประเทศกลุ่มนี้มีการเสริมวิตามินดีในอาหารเป็นปกติมานานแล้ว ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดวิตามินดี
 

 

กลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มขาดวิตามินดี

กลุ่มที่มีแนวโน้มขาดวิตามินดี ได้แก่

 

  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่มีเพศสภาพเป็นผู้ชาย
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน 
  • ชนชาติที่มีสีผิวเข้ม (ผู้อพยพในยุโรปที่เป็น ชาวอาฟริกันและเอเชียท่ีผิวคล้ำ เมื่ออยู่ในประเทศที่มีแสงแดดน้อย ยิ่งทำให้การสังเคราะห์วิตามินดีน้อยลงไปอีก)

 

สรุป

     การขาดวิตามินดีไม่เพียงส่งผลเรื่องความแข็งแรงของกระดูก แต่ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อผลของการรักษาภาวะติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมถึง COVID-19 อีกด้วย ดังนั้นคนที่มีแนวโน้มขาดวิตามินดี เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีผิวสี ผู้ที่ไม่ค่อยได้รับรังสี UVB หรือผู้ที่ตรวจเลือดแล้วพบว่าวิตามินดีต่ำ การเสริมวิตามินดีให้พอเพียงน่าจะมีประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ ทั้งโรค RSV ไข้หวัดใหญ่และ COVID-19 

 

 


การเสริมวิตามินดีให้พอเพียงน่าจะมีประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ ทั้งโรค RSV ไข้หวัดใหญ่และ COVID-19


 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.cambridge.org/core/journals/epidemiology-and-infection/article/does-vitamin-d-protect-against-respiratory-viral-infections/7FDF0857C837FD464453882220BB7B29/core-reader?fbclid=IwAR3zEjx5uccRUBO3KAsZFD-g3zVhjDPoZcIGojitSgm9LUDyL02sT3eevG8

http://imj.ie/vitamin-d-and-inflammation-potential-implications-for-severity-of-covid-19/