ผศ.นพ. สุทัศน์ ฮ้อศิริมานนท์
ศัลยกรรมหลอดเลือดและปลูกถ่ายอวัยวะ, การรักษาด้วยการใส่สายสวนขยายหลอดเลือด
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
โรคเบาหวานยังเป็นโรคซ่อนเร้นที่น่ากลัวเสมอ เมื่อรู้ว่าคนเป็นเบาหวาน เพียงโรคเดียวเท่านั้นก็ส่งผลกระทบสู่หลากโรคเสมือนผิวน้ำสะท้อนเป็นคลื่นวงกว้างยามก้อนหินตกกระทบ แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ชวนสงสัย แต่ทำไมถึงเกิดที่เท้า ทั้งหายช้าและเริ่มชาจนไร้ความรู้สึก เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะสิ่งใด
แผลเบาหวานที่เท้า (Diabetic Foot Ulcers) คือภาวะแทรกซ้อนจากภาวะหลอดเลือดตีบตัน บางรายอาจพบการติดเชื้อร่วม ซึ่งส่งผลให้เลือดไหลเวียนเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้น้อยลง ตัวโรคมักเกิดบริเวณขาและมักแสดงออกใน 3 อาการ
แผลเบาหวานมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดและระบบประสาทเสียหายจากโรคเบาหวาน โดยทั่วไปมักเกิดตามเท้า เพราะเป็นส่วนที่รองรับแรงกดทับและการเสียดสีได้ง่าย
เนื่องจากเท้าเป็นส่วนปลายที่ไกลจากหัวใจและเป็นจุดที่รับแรงกดทับในแนวดิ่ง เมื่อร่างกายเริ่มเกิดแผล เท้าจึงเป็นเป้าหมายแรก เพราะได้รับความเจ็บปวดจากการใช้งานที่มีอยู่เดิม โดยทั่วไปเท้ามักเป็นอวัยวะที่ได้รับแรงกดจากการวิ่ง การเดิน การยืนและการกระโดด ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงรู้สึกชา ไร้ความรู้สึกจนเผลอใช้เท้าโดยไม่ทราบว่าเป็นแผล บางรายอาจมีเท้าที่ผิดรูปไม่เท่ากัน เริ่มหลั่งเหงื่อผิดปรกติและภาวะอื่นร่วม
เมื่อเส้นประสาทเสื่อมหรือได้รับความเสียหายจากโรคเบาหวาน ทุกครั้งที่ก้าวเดินย่อมไร้ความรู้สึก ทุกครั้งที่เท้าเหยียบย่ำลงพื้นย่อมทำให้ผิวแผลแห้งและแตกง่าย ซึ่งเป็นช่องว่างให้เชื้อโรคเล็ดลอดสู่ร่างกายจนติดเชื้อ
หากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียย่อมเกิดการสมานแผลได้ช้า เกิดการอักเสบจนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นอาการบวมแดง มีเนื้อตายและส่งกลิ่นเหม็น หากดูแลรักษาแผลได้ไม่เหมาะสมก็อาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงอื่น
การเลือกรองเท้าตามขนาดเบอร์เพื่อสวมใส่อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานนัก เพราะรูปแบบอาจไม่ได้เข้ากับรูปเท้าของเรา โดยเฉพาะรองเท้าที่ทำจากวัสดุหนังแข็งสามารถอัดบีบและเสียดสีเท้าจนเกิดแผลได้ง่าย บางครั้งเท้ามักขยายจากการเดินมากขึ้น ทำให้รูปทรงรองเท้าที่สวมใส่ในปัจจุบันอาจใส่ได้ไม่นาน
แพทย์จะเริ่มดูสภาพอาการและเริ่มซักถามผู้ป่วย หลังจากนั้นจึงส่งตรวจเพื่อประกอบการวินิจฉัย ก่อนวางแผนรักษาแผลเบาหวานที่เท้าจากการระบายหนอง การใช้ยาปฏิชีวนะ และการผ่าตัด
อ่านเพิ่มเติม: รักษาแผลเบาหวานที่เท้าไม่ต้องตัดขา
ผู้ป่วยควรหมั่นสำรวจเท้าทุกครั้งหลังทำกิจกรรมว่ามีรอยแดง เล็กขบ บวมหรือไม่ ยิ่งเป็นภาวะรองเท้ากัดหลังสวมรองเท้าคู่ใหม่ ควรสังเกตอยู่บ่อย
ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการล้างแผลด้วยตัวเอง ทั้งการตัดแต่งแผลหรือการแช่เท้าในน้ำ โดยวิธีการดูแลแผลเบาหวานขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการแนะนำของแพทย์ หากเกิดอาการปวดแสบ
เนื่องจากเท้าเป็นอวัยวะที่บอบบางกว่าที่คิด การเลือกสวมรองเท้าที่พอดี ไม่หน้าแคบจนบีบเท้าและมีแผ่นรองนุ่มสบายย่อมลดแรงกดทับ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังสามารถเลือกใช้ไม้เท้า รถเข็นและอุปกรณ์ช่วยลดแรงตกกระทบตรงบาดแผล โดยเฉพาะช่วงขาจรดเท้าได้
ดังนั้นควรเลือกรองเท้าจากจากรูปทรงซึ่งใกล้เคียงกับรูปเท้า และใช้รองเท้าผ้าใบที่สวมใส่สบาย
ระดับน้ำตาลในเลือดยังเป็นตัวชี้วัดของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อยและคอเลสเตอรอลต่ำ พร้อมปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ลดน้ำหนักให้อยู่เกณฑ์ปรกติและใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ก็ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันและแรงกดทับระหว่างเดินได้อย่างมาก
การพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเท้าเป็นประจำช่วยตรวจจับปัญหาต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เช่น แผลที่อาจเกิดขึ้น หรือการติดเชื้อที่อาจไม่รู้สึกได้ โดยเริ่มจากการตรวจบาดแผลที่เกิดขึ้น ตรวจการไหลเวียนเลือดรวมถึงการตรวจความรู้สึกบริเวณเท้า
แผลเบาหวานรักษาได้ พร้อมมอบความอุ่นใจกับศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า โรงพยาบาลรามคำแหงภายใต้แนวคิด ‘ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล’ ร่วมเทคโนโลยีการรักษาที่ทรงประสิทธิภาพ จึงช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บ รู้ผลเร็วและเกิดความสบายใจ มอบโอกาสชีวิตใหม่ให้สุขสว่างใต้ความดูแลของเหล่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจนคุณรู้สึกเบาใจตลอดการรักษา
ศัลยกรรมหลอดเลือดและปลูกถ่ายอวัยวะ, การรักษาด้วยการใส่สายสวนขยายหลอดเลือด