Messenger

ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า

รายชื่อศูนย์การแพทย์หรือคลินิกของโรงพยาบาลรามคำแหง

ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า

 

 

     ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า โรงพยาบาลรามคำแหงให้บริการดูแลและรักษาแผลเบาหวานที่เท้าภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และบุคลากรการแพทย์ที่ชำนาญการด้านโรคเบาหวานและการดูแลแผลเบาหวาน โรงพยาบาลมุ่งมั่นให้การรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเกิดแผลลุกลามและยังช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพเท้าเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวในอนาคต

 

ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้าพร้อมช่วยคุณวินิจฉัยโรค

     ผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคนี้ เช่น มีอาการปวดชาที่ขาเวลาเดินหรือมีแผลที่เท้าเกิดขึ้นนานเกินสองสัปดาห์ นอกจากประวัติและการตรวจร่างกายซึ่งจำเป็นต้องทำในทุกรายแล้ว ผู้ป่วยยังต้องเข้ารับการตรวจวัดความดันเทียบระหว่างขากับแขนที่เรียกว่า Ankle-Brachial index หรือ ABI ซึ่งสามารถบอกได้คร่าวว่าผู้ป่วยมีภาวะนี้ซ่อนอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในรายที่อาการไม่แน่ชัดหรือไม่มีอาการ
 

 

 


การตรวจหาภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันด้วยเครื่อง ABI ช่วยให้ทราบผลได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการตรวจ

 

 

 

 

เทคโนโลยีการตรวจและการรักษา

  • เป็นการตรวจเช็คการอุดตันของหลอดเลือดแดงและความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
  • สามารถนำไปสู่การค้นหาโรคอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจหรือหลอดเลือดสมองตีบ
  • เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้และรู้จักดีในวงการแพทย์ คือ ABI และ PWV ตรวจเช็คพร้อมกันทุกจุดของร่างกาย
  • TBI ซึ่งสามารถบอกได้คร่าวว่าผู้ป่วยมีภาวะนี้ซ้อนอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการไม่แน่ชัดหรือไม่มีอาการ
  • เพื่อค้นหาโรคหลอดเลือดส่วนปลายอุดตันซึ่งหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบหรือเส้นเลือดสมองตีบโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน สูบบุหรี่จัด หรือผู้ที่มีอาการปวดขาอยู่เป็นประจำ

 

 

ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้าศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า

 

 

การวินิจฉัยแผลเบาหวานที่เท้า

     นอกจากผู้ป่วยโรคเบาหวานมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดที่ขาตีบตันแล้ว ตัวโรคเบาหวานเองยังทำให้เกิดอาการเท้าชาร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม แผลที่เท้าก็มักถูกปล่อยละเลย เนื่องจากผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลที่เป็น เมื่อรู้ตัวอีกทีแผลอาจลุกลามจนติดเชื้อถึงขนาดต้องตัดขา บางรายมีการติดเชื้อรุนแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การตัดนิ้วเท้าหรือตัดเนื้อตายเพียงอย่างเดียวมักไม่ทำให้แผลหาย แต่กลับยิ่งทำให้แผลลุกลามมากขึ้นถึงขั้นเสียขาได้ ดังนั้นโรคนี้จึงต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องจึงจะรักษาขาไว้ได้

 

 

 

 

การรักษาแผลเบาหวานที่เท้า

     การรักษาแผลเบาหวานที่เท้าที่เกิดจากโรคหลอดเลือดตีบตันมีหลายวิธี ผู้ป่วยที่มีการตีบตันเพียงเล็กน้อยอาจเริ่มด้วยการรักษาด้วยยา กรณีที่มีพยาธิสภาพมากขึ้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่มากขึ้น เช่น การสอดสายสวนขยายหลอดเลือด การผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงที่ขา โดยข้อดีของการรักษาด้วยการสอดสายสวนขยายหลอดเลือดคือไม่ต้องผ่าตัด มีแผลเจ็บเพียงเล็กน้อยคล้ายการเจาะเลือด และยังเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว

 


 

ram hospital
 

form submission

google map to RAM hospital

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณฮวด  ตั้งสิทธิกร

 

ผู้ป่วยแผลเบาหวานที่เท้า

 

" คุณฮวด  ตั้งสิทธิกร ผู้มีวัย 71 ปีได้เล่าให้ฟังว่าเป็นเบาหวานมา 37 ปีแล้ว ส่วนแผลที่เท้าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองโดยมีบุตรสาวคือ คุณศิริพร ช่วยเป็นภาระในการดูแลทำแผลเองบ้าง พาไปหาหมอทั้งแถวๆ บ้านและที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ตอนแรกเป็นแผลแค่นิ้วหัวแม่โป้งเดียวแต่รักษานานเป็นปียังไม่ยอมหาย แถมยังเกิดแผลตามมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องถูกตัดรวมแล้ว 4 นิ้ว และแผลกำลังเริ่มลามไปนิ้วที่ 5"

 

ญาติสนิทได้เห็นในรายการโทรทัศน์ว่าที่โรงพยาบาลรามคำแหงมีวีธีขยายเส้นเลือดช่วยรักษาแผลให้ผู้ป่วยเบาหวานได้ จึงรีบพาคุณฮวดมาติดต่อรับการรักษาโดยทันที

 

หลังจากคุณหมอสุทัศน์รับตัวคุณฮวดเข้าไปทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ได้อธิบายให้ทราบว่าต้นเหตุเกิดจากเส้นเลือดที่ขา ซึ่งหมายถึงเส้นเลือดส่วนปลายเกิดการอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงถึงปลายเท้า จึงส่งผลให้แผลที่เกิดขึ้นนั้นรักษาไม่หาย และประสาทในบริเวณนั้นจะไม่เกิดการรับรู้ใดๆ ผู้ป่วยจึงไม่รู้สึกเจ็บแผล และได้นำคนไข้เข้ารับการฉีดสีเพื่อดูสภาวะของหลอดเลือดส่วนปลาย และตรวจพบว่าบริเวณที่เกิดการตีบตันอยู่ที่ใต้เข่าลงไป และเส้นเลือด หรือหลอดเลือดของคนไข้เกิดภาวะตีบตันสนิทไปแล้ว 2 เส้นจากที่มีด้วยกัน 3 เส้นและเส้นที่เหลืออยู่ยังเกิดอุดตันเป็นช่วงๆ รวม 2 ตำแหน่ง แต่ละตำแหน่งที่ตันไปแล้วมีความยาวถึง 8 ซม. และ 12 ซม.

 

แพทย์ทำการรักษาโดยการสอดใส่บัลลูนเข้าไปในหลอดเลือดจนถึงตำแหน่งที่ตีบตันและปั๊มอากาศเข้าไปทำให้บัลลูนพองตัวออกรอบด้านซึ่งเป็นผลให้หลอดเลือดที่อุดตันขยายตัวพองขึ้นทันทีทำให้เลือดสามารถไปเลี้ยงยังปลายเท้า ทำให้รอดจากการถูกตัดนิ้วเท้าที่เหลือได้ทัน

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณทับทิม แซ่เจียม

     เป็นเบาหวานมานานกว่า 20 ปีกว่า เคยเกิดแผลเรื้อรังที่เท้าแต่รักษาไม่หาย จนต้องถูกตัดนิ้วเท้าไป 4 นิ้วแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดมีจุดแดงเล็กๆ ที่ใต้ฝ่าเท้าเหมือนยุงกัดแล้วกลายเป็นแผล ซึ่งถึงแม้ว่าจะคอยเช็ดทำความสะอาดแผลดังกล่าวเป็นประจำ แต่กลับไม่มีทีท่าว่าแผลจะหาย ถัดมาประมาณ 6-7 เดือน นิ้วเท้าดังกล่าว เริ่มบวมแดง และมารดารู้สึกเจ็บนิ้วเท้า จึงพาไปพบแพทย์ที่ รพ.รามคำแหง ซึ่งหลังจากวินิจฉัยแล้ว แพทย์แจ้งให้ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้น เกิดจากภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบและได้ทำการรักษาโดยวิธีบอลลูนขยายหลอดเลือด ซึ่งเป็นผลให้แผลที่ไม่มีทีท่าว่าจะหายนั้นกลับค่อยๆ ดีขึ้น จนหายสนิทภายใน ระยะเวลา 1 เดือน

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณสันติ สุขสันต์สกุล

     ตนเองนั้นเป็นเบาหวานมานานหลายปีจู่ๆ ก็เกิดอาการปวดขา อีกทั้งเมื่อลองจับที่ขาและปลายเท้าดูปรากฎว่าขาและปลายเท้ามีความเย็นผิดปกติ เสมือนยืนอยู่บนน้ำแข็ง แม้จะมีการนำผ้าห่มไฟฟ้ามาคลุมไว้เพื่อบรรเทาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โดยที่อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ส่งผลให้ตนเองไม่สามารถข่มตาหลับได้ ต้องพึ่งยานอนหลับทุกคืน จนกระทั่งบุตรสาวผู้ทำหน้าที่ดูแลทนไม่ได้ ต้องพามาปรึกษาแพทย์ที่ รพ.รามคำแหง และหลังจากเข้ารับการตรวจแล้วจึงทราบว่ามีภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบ หลังการรักษาส่งผลให้อาการเย็นที่ขาและปลายเท้ากลับอุ่นขึ้น ส่วนอาการปวดขาที่เคยเป็นอุปสรรคในการนอนก็หายไปด้วย

  • "แผลเบาหวาน" ที่เกิดจากหลอดเลือดตีบตัน

  • "แผลเบาหวานที่เท้า"...รักษาได้!

  • สาเหตุการเกิดภาวะแทรกซ้อน จากแผลเบาหวาน

  • เทคโนโลยีการรักษาแผลเบาหวานที่เท้า

  • นวัตกรรมการรักษาแผลเบาหวานที่เท้า

  • นวัตกรรมรักษาเบาหวาน ไม่ต้องตัดขา

  • เส้นเลือดขอด

  • แผลเบาหวานที่เท้า

  • นวัตกรรมการรักษาแผลเบาหวานที่เท้า

  • เบาหวานภัยที่มากับน้ำท่วม

  • แผลเบาหวานที่เท้า โรคที่มากับน้ำท่วม

  • อันตรายของแผลเบาหวานที่เท้า

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณฮวด  ตั้งสิทธิกร

 

ผู้ป่วยแผลเบาหวานที่เท้า

 

" คุณฮวด  ตั้งสิทธิกร ผู้มีวัย 71 ปีได้เล่าให้ฟังว่าเป็นเบาหวานมา 37 ปีแล้ว ส่วนแผลที่เท้าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองโดยมีบุตรสาวคือ คุณศิริพร ช่วยเป็นภาระในการดูแลทำแผลเองบ้าง พาไปหาหมอทั้งแถวๆ บ้านและที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ตอนแรกเป็นแผลแค่นิ้วหัวแม่โป้งเดียวแต่รักษานานเป็นปียังไม่ยอมหาย แถมยังเกิดแผลตามมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องถูกตัดรวมแล้ว 4 นิ้ว และแผลกำลังเริ่มลามไปนิ้วที่ 5"

 

ญาติสนิทได้เห็นในรายการโทรทัศน์ว่าที่โรงพยาบาลรามคำแหงมีวีธีขยายเส้นเลือดช่วยรักษาแผลให้ผู้ป่วยเบาหวานได้ จึงรีบพาคุณฮวดมาติดต่อรับการรักษาโดยทันที

 

หลังจากคุณหมอสุทัศน์รับตัวคุณฮวดเข้าไปทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ได้อธิบายให้ทราบว่าต้นเหตุเกิดจากเส้นเลือดที่ขา ซึ่งหมายถึงเส้นเลือดส่วนปลายเกิดการอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงถึงปลายเท้า จึงส่งผลให้แผลที่เกิดขึ้นนั้นรักษาไม่หาย และประสาทในบริเวณนั้นจะไม่เกิดการรับรู้ใดๆ ผู้ป่วยจึงไม่รู้สึกเจ็บแผล และได้นำคนไข้เข้ารับการฉีดสีเพื่อดูสภาวะของหลอดเลือดส่วนปลาย และตรวจพบว่าบริเวณที่เกิดการตีบตันอยู่ที่ใต้เข่าลงไป และเส้นเลือด หรือหลอดเลือดของคนไข้เกิดภาวะตีบตันสนิทไปแล้ว 2 เส้นจากที่มีด้วยกัน 3 เส้นและเส้นที่เหลืออยู่ยังเกิดอุดตันเป็นช่วงๆ รวม 2 ตำแหน่ง แต่ละตำแหน่งที่ตันไปแล้วมีความยาวถึง 8 ซม. และ 12 ซม.

 

แพทย์ทำการรักษาโดยการสอดใส่บัลลูนเข้าไปในหลอดเลือดจนถึงตำแหน่งที่ตีบตันและปั๊มอากาศเข้าไปทำให้บัลลูนพองตัวออกรอบด้านซึ่งเป็นผลให้หลอดเลือดที่อุดตันขยายตัวพองขึ้นทันทีทำให้เลือดสามารถไปเลี้ยงยังปลายเท้า ทำให้รอดจากการถูกตัดนิ้วเท้าที่เหลือได้ทัน

 

 

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณทับทิม แซ่เจียม

     เป็นเบาหวานมานานกว่า 20 ปีกว่า เคยเกิดแผลเรื้อรังที่เท้าแต่รักษาไม่หาย จนต้องถูกตัดนิ้วเท้าไป 4 นิ้วแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดมีจุดแดงเล็กๆ ที่ใต้ฝ่าเท้าเหมือนยุงกัดแล้วกลายเป็นแผล ซึ่งถึงแม้ว่าจะคอยเช็ดทำความสะอาดแผลดังกล่าวเป็นประจำ แต่กลับไม่มีทีท่าว่าแผลจะหาย ถัดมาประมาณ 6-7 เดือน นิ้วเท้าดังกล่าว เริ่มบวมแดง และมารดารู้สึกเจ็บนิ้วเท้า จึงพาไปพบแพทย์ที่ รพ.รามคำแหง ซึ่งหลังจากวินิจฉัยแล้ว แพทย์แจ้งให้ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้น เกิดจากภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบและได้ทำการรักษาโดยวิธีบอลลูนขยายหลอดเลือด ซึ่งเป็นผลให้แผลที่ไม่มีทีท่าว่าจะหายนั้นกลับค่อยๆ ดีขึ้น จนหายสนิทภายใน ระยะเวลา 1 เดือน

เสียงจากผู้รับบริการ

คุณสันติ สุขสันต์สกุล

     ตนเองนั้นเป็นเบาหวานมานานหลายปีจู่ๆ ก็เกิดอาการปวดขา อีกทั้งเมื่อลองจับที่ขาและปลายเท้าดูปรากฎว่าขาและปลายเท้ามีความเย็นผิดปกติ เสมือนยืนอยู่บนน้ำแข็ง แม้จะมีการนำผ้าห่มไฟฟ้ามาคลุมไว้เพื่อบรรเทาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โดยที่อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ส่งผลให้ตนเองไม่สามารถข่มตาหลับได้ ต้องพึ่งยานอนหลับทุกคืน จนกระทั่งบุตรสาวผู้ทำหน้าที่ดูแลทนไม่ได้ ต้องพามาปรึกษาแพทย์ที่ รพ.รามคำแหง และหลังจากเข้ารับการตรวจแล้วจึงทราบว่ามีภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบ หลังการรักษาส่งผลให้อาการเย็นที่ขาและปลายเท้ากลับอุ่นขึ้น ส่วนอาการปวดขาที่เคยเป็นอุปสรรคในการนอนก็หายไปด้วย