6 อาการหลักชวนสังเกตโรคหลอดเลือดสมอง

     สมองเป็นอวัยวะที่คอยสั่งการให้เราขยับแขนขาได้ ให้เราได้คิด และคอยควบคุมให้อวัยวะอื่นทำงานสอดประสานกันอย่างราบรื่น เมื่อหลอดเลือดซึ่งเปรียบเสมือนเส้นชีวิตของสมองนั้นตีบหรือแตก หลายอย่างก็กลายเป็นเหนือการควบคุม B.E.F.A.S.T ยังเป็นหลักสังเกตที่ใช้สำรวจเบื้องต้นว่าเข้าข่ายเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ หากเกิดเพียงข้อเดียวควรเข้าพบแพทย์โดยเร็ว

กล่าวความเดิมถึงโรคหลอดเลือดสมอง

     โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงรองจากโรคหัวใจและโรคมะเร็ง โดยเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งความเครียด อายุที่เพิ่มขึ้น การสูบบุหรี่ หรือโรคอื่นที่มีอยู่ก่อน เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนจะแสดงออกในรูปแบบตีบ อุดตันหรือแตกนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิด

‘ตีบ’ ไม่เท่ากับ ‘แตก’

     หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเกิดจากการมีก้อนหรือกำแพงบางอย่างขวางกั้นไม่ให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ ต่างจากกรณีหลอดเลือดสมองแตกซึ่งเกิดจากหลอดเลือดเปราะหรือมีรอยรั่ว โดยอาการอาจไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม แพทย์จึงจำเป็นต้องใช้ CT Scan หรือ MRI เพื่อช่วยวินิจฉัย

โรคหลอดเลือดสมองไม่ได้เกิดแค่กับคนอายุเยอะ

     โรคหลอดเลือดสมองนั้นพบมากในผู้สูงอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เนื่องจากหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่นและเสื่อมสภาพตามวัย บุหรี่เป็นตัวเพิ่มให้ผนังหลอดเลือดเปราะ เบาหวานและไขมันในเลือดที่สูงเพิ่มโอกาสการตีบตัน  พันธุกรรมก็มีส่วน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 45 ปีเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้นจากปัจจัยข้างต้น นอกจากนั้นโรคหัวใจยังเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือด   

กรณีของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ AF (Atrial Fibrillation) เมื่อหัวใจสูบฉีดผิดจังหวะ มีโอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดส่วนปลาย กลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองอุดตันได้

‘B.E.F.A.S.T’ จุดสังเกตสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นแบบ ‘ทันทีทันใด’ เพียงหนึ่งอาการควรเข้าพบแพทย์ โดยแต่ละอาการอาจมาจากความผิดปรกติของหลอดเลือดที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองส่วนนั้น

• B - Balance เวียนหัวบ่อย ทรงตัวไม่ได้
• E - Eyes ตามัว เห็นภาพซ้อน มองเห็นคล้ายม่านบังตา
• F - Face ปากเบี้ยว มุมปากตก
• A - Arm รู้สึกอ่อนแรง ตามแขนขาและใบหน้าในซีกใดซีกหนึ่ง 
• S - Speech พูดไม่ออก บอกไม่ถูก พูดไม่ชัด ไม่เข้าใจคำพูด
• T - Time ยิ่งนานยิ่งช้า ยิ่งอันตรายต่อชีวิต

ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาภายใน 4.5 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มทางรอดและฟื้นฟูให้ใกล้เคียงปรกติที่สุด

 

ให้ศูนย์สมองได้ดูแลคุณก่อนสายไป

     อย่าปล่อยให้สิ่งผิดแปลกเพียงเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องที่รอให้ผ่านพ้น เพราะเราไม่รู้ได้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีอีกหรือไม่ ศูนย์สมอง โรงพยาบาลรามคำแหงพร้อมอยู่เคียงข้างคุณเพื่อก้าวพ้นอุปสรรคนั้น เพราะทุกวินาทีมีความหมาย เราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลอย่างทันท่วงที เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มที่...โดยไม่ต้องรอให้ “สายเกินไป”