เคยเจอกันไหมครับ...ว่าคนใกล้ตัว หรืออาจเป็นตัวเราเองมีพฤติกรรมการกินไม่อิ่ม กินไปเรื่อย ๆ กินได้ตลอดเวลาทั้งวันแม้ไม่รู้สึกหิวนั้นก็จัดเป็นความผิดปรกติรูปแบบหนึ่ง บทความนี้จะพาผู้อ่านทุกคนลองสำรวจตัวเองและคนใกล้ตัวว่าพฤติกรรมแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder
โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) คืออาการของคนที่กินอาหารได้ครั้งละมากๆ มากจนน่าตกใจ และมักจะกินในเวลาอันรวดเร็ว หรือบางคนอาจจะเป็นบางช่วงที่กินเยอะเหมือนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
แม้ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ทางการแพทย์สันนิษฐานว่า อาจเกิดได้จาก 3 พฤติกรรมเหล่านี้
ทั้งหมดคล้ายกับอาการกินตามอารมณ์อย่างมาก แตกต่างเพียงแค่การกินตามอารมณ์นั้นอาจเกิดได้จากอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น มีความสุข เศร้า เครียด และอาจไม่ได้กินเยอะและรวดเร็วเท่ากับ Binge Eating Disorder แต่อาจเรียกได้ว่าการกินตามอารมณ์นั้นพัฒนามาเป็นโรคนี้นั่นเอง
วัยรุ่นตอนปลาย ช่วงอายุประมาณ 23 ปี โดยค่าเฉลี่ยมีแนวโน้มที่จะพัฒนามาจากโรคกินผิดปกติอย่างโรคคลั่งผอม แต่พัฒนามาเป็นอีกขั้วจนมาเป็น Binge Eating Disorder และโดยเฉลี่ยของผู้ป่วยด้วยโรคนี้จากสถิติจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคกินไม่หยุดมักควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ เนื่องจากมักเลือกการกินเป็นรางวัล กินเพื่อคลายเครียด หรือรู้สึกอะไรก็มักกิน ซึ่งเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าคนกลุ่มอื่น
แม้ว่าโรคกินไม่หยุดไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่ก็สามารถกระทบต่อชีวิตและจิตใจของผู้ป่วยได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม พฤติกรรมกินเยอะเป็นช่วง ๆ อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันสูง โรคอ้วน โรคหัวใจโรค หลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งโรคที่เกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก เป็นต้น
หากตัวคุณเองหรือคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมหรือเกิดอาการแบบนี้เกิน 3 ข้อขึ้นไป อาจจะต้องได้เวลาไปพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษา
ผู้ป่วยควรเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อเข้ารับการบำบัดควบคู่กับปรับทัศนคติต่อการลดน้ำหนักและการระบายอารมณ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากนั้นจิตแพทย์จะใช้กลุ่มยาคลายความเครียดสำหรับรักษาอาการ
ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อควบคุมพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่เหมาะสมจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการและผู้ชำนาญการด้านการออกกำลังกาย โดยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคกินไม่หยุดอันเนื่องจากพฤติกรรมลดน้ำหนักผิดวิธี
อ่านเพิ่มเติม: ศูนย์ดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก
ผู้ป่วยที่เป็นโรคกินไม่หยุดควรเข้าใจพฤติกรรมหรืออาการป่วยของตัวเองในเบื้องต้น หลังจากนั้นจึงเข้ารับการบำบัดและรักษาจากจิตแพทย์ให้หายจากอาการ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติ