เสียงจากผู้รับบริการ

คุณสรีวรรณ จันทร์แจ้ง

 

 

ผู้ป่วยมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องหู คอ จมูก

 

“...รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เป็นพนักงานของ รพ.รามคำแหง…”

 

 “...ตอนหลังผ่าตัดปรากฏว่าใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก แล้วแผลก็สวยมากเสียงก็ดี แคลเซียมก็ไม่ต่ำ รู้สึกเลยว่า...กำลังใจของเราดีขึ้นมากที่ได้เจออาจารย์มาช่วยรักษาได้ทันเวลา ทั้ง ๆ ที่เราคิดอยู่แล้วว่าเราเป็นรุนแรง ซึ่งพี่สาวที่เคยเป็นมาก่อนต้องใช้เวลาพักฟื้นนานประมาณ 4-5 เดือนค่ะและยังต้องผ่าตัดอีก 2 ครั้ง ซึ่งพี่สาวไม่ได้รักษาที่ รพ.รามคำแหงนะคะ ก็แปลกใจที่ตัวของเราเองผ่าตัดเสร็จกลับไปบ้านแล้วก็เดินเหินอะไรได้ปกติดี...ยังถามอาจารย์เลยว่าออกกำลังกายได้ไหม...อาจารย์ก็บอกว่าอย่าพึ่ง แต่ก็ทำงานบ้านได้ กลับไปถึงบ้านก็กวาดถูบ้านอะไรได้เลยหลังจากผ่าตัดค่ะ มีระยะการพักฟื้นแค่เดือนเดียว แผลและร่างกายดีทุกอย่างโดยไม่รู้เลยว่าอาจารย์ใช้เครื่องมือลงไปยังไง คือตอนแรกได้ยินอาจารย์บอกว่าอาจจะต้องให้หมอผ่าตัดทรวงอกเข้าร่วมทำด้วยอีกคนหนึ่ง จะได้ผ่าตัดเปิดหน้าอกแล้วช่วยกันเลาะ ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าถ้าถึงขนาดนั้นเราคงต้องพักฟื้นหลายเดือน แต่อาจารย์เก่งมาก ก็คือสรุปว่าหมอทรวงอกไม่ได้เข้าไปช่วยก็ประสบความสำเร็จ และอาจารย์มั่นใจว่าตัดออกหมดแล้ว และผลตรวจมะเร็งเป็น 0.1 อาจารย์บอกเราว่าหายแล้วนะ แต่เพื่อป้องกันอีกชั้นด้วยการให้ไปกลืนน้ำแร่ 1 ครั้งตามมาตรฐานการรักษาซึ่งไปกลืนมาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มีการนัดทุก 6 เดือนให้ไปสแกนซ้ำว่ามีมะเร็งขึ้นหรือเปล่า แต่ว่าผลการตรวจล่าสุดคือ...ไม่มีแล้วค่ะ...รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เป็นพนักงานของ รพ.รามคำแหง เพราะถ้าเกิดทำงานที่อื่นคงไม่ได้รักษาดีขนาดนี้ และผู้บริหารใส่ใจพนักงานมาก คอยเป็นห่วงเป็นใย ถามอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นยังไงบ้าง คอยช่วยเหลือและคอยถามว่าเรามีปัญหาอะไรที่สามารถช่วยได้ ก็รู้สึกประทับใจ รวมทั้งคุณหมอภูริปัณย์ด้วยที่เป็นห่วง แล้วก็ช่วยผ่าตัดให้ ขอบคุณ รพ.รามคำแหงมากค่ะ..”

คุณวันชัย ใยโพธิ์ทอง

 

ผู้ป่วยผ่าตัดปลูกถ่ายไต

 

“รู้สึกดีมากหลังผ่าตัดแล้วไม่ต้องขับรถหรือลูกต้องพามาฟอกไตอีกแล้ว...ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่-เหมือนเป็นคนใหม่เลยครับ

 

“...ผมเป็นโรคไต 10 ปีรวมทั้งฟอกไตคือ 11 ปีครึ่ง เป็นทั้งโรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคเกาต์ ความดันจึงได้กินยาพวกแก้ปวดเรื่อยมา ไปตรวจร่างกายประจำปีพบว่าค่าไตสูงขึ้น 1.9 จึงมารักษากับคุณหมอถนอมศักดิ์ อัศวดิลกชัย ที่ รพ.รามคำแหง ได้รับยามาทานแต่ต่อมาอาการแย่ลงก็ได้ประคองตัวมาเรื่อย ๆ และไม่ยอมฟอกไตอยู่เป็นปี จนไม่ไหวก็ได้ตัดสินใจฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ๆ ละ 4 ชั่วโมงครับ ซึ่งเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกเปลี่ยนไตซึ่งอาจารย์ถนอมศักดิ์ท่านแนะนำว่าโรงพยาบาลรามคำแหงมีโครงการปลูกถ่ายไตซึ่งได้ลงชื่อไว้กับสภากาชาดไทยด้วย ผมจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้และรออยู่ไม่ถึงปีก็ได้รับแจ้งจากหมอที่ รพ.ในช่วงคืนวันจันทร์ว่าได้รับไตแล้วและให้ผมมารอผ่าตัดที่ รพ.รามคำแหงวันอังคารและผมได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตคืนวันอังคารที่ 24 พ.ค.65 นั้นเลย เพราะได้รับการตรวจเช็คร่างกายล่วงหน้ามาแล้ว จึงได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต คลื่นหัวใจอีกนิดหน่อย ก็ได้รับการผ่าตัดสี่ทุ่มครึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็เสร็จและได้พักอยู่ในโรงพยาบาลครึ่งเดือน...คุณหมอนัดมาตรวจเป็นระยะ ๆ ครับ...รู้สึกดีมากหลังผ่าตัดแล้วไม่ต้องขับรถหรือลูกต้องพามาฟอกไตอีกแล้ว...ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่-เหมือนเป็นคนใหม่เลยครับ...”

คุณเรวดี จตุรงค์พาณิชย์

 

ผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

 

เกิดอาการวูบ 30 ปีก่อนจากหัวใจเต้นผิดปกติ รักษาด้วยการแพทย์แบบทางไกล

 

“...คือมันเกิดขึ้นอายุประมาณ 30 ได้ ตอนเริ่มต้นก็แค่มีอาการแบบว่าชาที่บริเวณโคนลิ้นกับกรามค่ะ มันจะรู้สึกชา ๆ แล้วใจก็จะแบบหวิว ๆ แล้วก็วูบหมดสติค่ะ ตอนแรกไปหาหมอที่ รพ.รามฯ แต่ตรวจแล้วไม่พบ เพราะตอนไปหาหมอมันไม่มีอาการ คุณหมอก็นึกว่าเป็นลมธรรมดา จนกระทั่งวันหนึ่งได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ในหมู่บ้านแล้วเกิดวูบตกมอเตอร์ไซค์ พอดีเพื่อนบ้านเห็นก็เลยพาส่งไปที่ รพ.รามคำแหง ได้พบอาจารย์หมอวิชัยค่ะ คุณหมอก็สงสัยว่าอายุยังน้อยทำไมถึงมีอาการแบบนี้ พอตรวจหัวใจแล้วได้ให้ติดเครื่องวัดหัวใจแบบ Holter ผลออกมาว่าเป็นหัวใจเต้นผิดปกติ คุณหมอก็เลยเรียกเข้า รพ.ด่วนเพื่อให้ยาทาน หลังจากนั้นก็ดีขึ้นก็จึงให้ทานยาทุกวัน โดยคุณหมอบอกแต่แรกแล้วว่าสงสัยต้องทานยาไปตลอดชีวิตเพื่อคุมการเต้นของหัวใจ จากนั้นก็ได้มีอาการวูบหมดสติอีกสัก 2-3 ครั้งจึงไปหาคุณหมอและได้รับยาเข้าทางเส้นเลือด แต่ที่เราสงสัยคือมันเกิดจากอะไรจึงถามคุณหมอและฟังว่าเหตุผลหนึ่งอาจจะมาจากเครียด ซึ่งเราก็คิดว่าน่าจะเป็นอันนั้น เพราะช่วงนั้นมีปัญหาเรื่องงานกับอะไรอีกหลายอย่างเข้ามาพร้อม ๆ กัน ก็เลยหันมาใช้ชีวิตใหม่โดยพยายามตัดปัญหาทุกสิ่งออกไป จะได้ไม่หมกมุ่นมากแล้วก็เริ่มออกกำลังกายจนกระทั่งรู้สึกว่าดีขึ้น ไม่มีอาการวูบก็ลองหยุดยาค่ะ...หยุดมาน่าจะเกิน 20 ปีด้วยซ้ำแต่ก็อยู่ได้โดยไม่มีอาการจึงไม่ได้ไปหาคุณหมออีกเลย คือใช้ชีวิตปกติมาตลอด ไม่มีอาการเตือน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น อยู่ ๆ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ตอนกลางวันเดิน ๆ อยู่ในห้องก็ล้มลงไปเฉย ๆ โดยไม่มีอาการเตือนอะไรทั้งสิ้นค่ะ ดีแต่ว่ามันเป็นแค่แว้บเดียว พอลุกขึ้นมาก็นึกถึงอาการที่เราเคยเป็น แต่เมื่อนั่งไปทั้งวันมันก็ไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น มาอีกทีตอนหัวค่ำกำลังเอนหลังดูทีวีอยู่ มันก็มีอาการแบบวูบ ๆ ใจสั่น แล้วยังวูบติด ๆ กันจึงคิดว่าผิดปกติมาก เพราะเมื่อก่อนที่เคยเป็นไม่ถึงขนาดนี้-วูบจนเรารู้สึกเหนื่อย จึงไปเรียกรถฉุกเฉินให้พาไปส่ง รพ.รามคำแหงเพราะทราบว่าคุณหมอวิชัยยังอยู่ที่นั่น แม้จะผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว และแม้ว่าประวัติการรักษาไม่อยู่แล้ว แต่คุณหมอจำได้ว่าเคยวูบจนตกรถมอเตอร์ไซค์นะคะ แล้วจากนั้นคุณหมอวิชัยร่วมกับคุณหมอบัญชาก็ช่วยกันดู ช่วยกันรักษาตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเลย โดยได้ติดเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นผิดปกติที่เรียกว่า Holter ให้แต่มันก็ไม่มีอาการอะไรค่ะ...”