Messenger

รู้ให้เบาใจและเตรียมตัวก่อนการตรวจวัดกรดในหลอดอาหาร 24 ชั่วโมง

September 25 / 2025

ตรวจกรดไหลย้อน 24 ชั่วโมง

 

 

 

     การตรวจวัดกรดในหลอดอาหาร 24 ชั่วโมง (24hr Esophageal pH-impedance testing) เป็นเทคโนโลยีสำหรับวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อน โดยแพทย์จะเก็บข้อมูลค่าความเป็นกรดและส่งให้เครื่องแปลผลอย่างละเอียด เพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการ

 

การตรวจนี้ดูเรื่องใดบ้าง

  • จำนวนครั้งของการเกิดกรดไหลย้อน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างอาการกับภาวะกรดไหลย้อน
  • การเรอจากกระเพาะอาหารและการเรอจากหลอดอาหารส่วนบน
  • ลักษณะของภาวะกรดไหลย้อน
    • คุณสมบัติทางกายภาพ เช่น ของเหลว แก๊ส ของผสม
    • คุณสมบัติทางเคมี เช่น เป็นกรด ไม่เป็นกรด
    • ระดับของกรดไหลย้อน
    • การเกิดกรดและก้อนกรด
    • การระบายของกรดและก้อนกรด

 

 

ตรวจกรดในหลอดอาหาร 24 ชั่วโมง

 

 

วิธีการตรวจ

โดยทั่วไปทำได้ 2 วิธี ได้แก่

 

  • การใช้สายวัดขนาดเล็กเข้าไปในหลอดอาหารผ่านจมูกและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง
  • การใช้แคปซูลนำไปติดผนังหลอดอาหารเพื่อเก็บข้อมูล โดยแคปซูลจะหลุดออกเองและขับถ่ายออกเองตามธรรมชาติ วิธีนี้ใช้ตรวจได้เฉพาะน้ำย่อยที่กรด

 

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ

เพื่อให้การตรวจผ่านอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ผู้เข้ารับการตรวจควรเตรียมตัวดังนี้

 

  • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ยาที่ทานเป็นประจำ รวมถึงประวัติการผ่าตัด เพื่อให้แพทย์วางแผนการตรวจได้อย่างเหมาะสม
  • งดสูบบุรี่และสุราอย่างน้อย 7 วันก่อนเข้ารับการตรวจ
  • หยุดรับประทานอาหารและดื่มหลัง 6 โมงเย็น
  • งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน ก่อนตรวจ 1 วัน
  • กรณีของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ให้งดยาเบาหวานทั้งชนิดรับประทานและฉีดในวันที่เข้ารับการตรวจ
  • กรณีของผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ให้ทานยาพร้อมกับน้ำปริมาณครึ่งแก้วช่วง 6 โมงเช้า และงดน้ำจนกว่าถึงเวลาตรวจ
  • โปรดงดรับประทานยาดังต่อไปนี้ก่อนวันตรวจอย่างน้อย 7 วัน ซึ่งประกอบด้วย
    • ยาลดกรด เช่น Miracid, Pariet, Nexium, Prevacid, Controloc, Losec
    • ยาที่มีผลต่อการทำงานของหลอดอาหารและลำไส้ เช่น Gasmotin, Ganaton, Mazt, Doiz, Vocinti, Resolor, Motilium, Molax
    • ยาคลายกล้ามเนื้อ
    • ยาที่มีผลต่อการทำงานของหลอดอาหารและลำไส้
    • ยาที่มีส่วนช่วยขยายหลอดเลือด (Isosorbide dinitrate/mononitrate : ISMO)

 

 


หากสงสัยหรือไม่แน่ใจเรื่องการงดรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์