โรคสุกใสหรือโรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เป็นโรคติดต่อที่ทำให้ร่างกายเกิดผื่น มีตุ่มนูนขนาดเล็ก หรือตุ่มน้ำใส ๆ ทั่วร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่สามารถพบในผู้ใหญ่ได้โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ บางกรณีสามารถหายได้เอง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หลังจากหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสนี้จะไปหลบอยู่ที่ปมประสาทของผู้ป่วย และสามารถทำให้เกิดโรคงูสวัดได้หากผู้ป่วยรายนี้มีภูมิต้านทานลดลง
โรคสุกใสเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า วาริเซลลา ซอสเตอร์ ไวรัส หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เชื้อวีซีวี (Varicella Zoster Virus: VZV) ที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางการสัมผัสกับแผลของผู้ป่วยที่เป็นโรคโดยตรง หรือการหายใจเอาละอองฝอยของน้ำลายน้ำมูกที่มีเชื้อที่ปะปนในอากาศเข้าไป
อ่านเพิ่มเติม: โรคงูสวัด ภัยเงียบในผู้สูงอายุ
โรคสุกใสมีระยะฟักตัวอยู่ที่ประมาณ 10-21 วันหลังจากผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส โดยจะเกิดผื่นที่เริ่มแรกจะขึ้นเป็นตุมแดงต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำ เป็นตุ่มหนองและตกสะเก็ดตามลำดับ โดยผื่นจะขึ้นไม่พร้อมกันทั่วร่างกาย โดยมักเริ่มขึ้นจากที่หน้าไปที่ลำตัวและแขนขา จะแสดงอาการอยู่ประมาณ 5-10 วัน อาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นก่อนการเกิดผื่น ได้แก่ อาการไข้ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ รู้สึกอ่อนล้าและไม่สบายตัว
หลังจากผู้ป่วยผ่านอาการโรคสุกใสทั้ง 3 ระยะแล้ว ผู้ป่วยจะพบว่าเกิดตุ่มแดงบนผิวหนังเป็นระยะเวลาหลายวัน และในที่สุดผู้ป่วยจะมีอาการของผื่นชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ และในที่สุดก็จะกลายเป็นสะเก็ดแผล ผู้ป่วยจะเริ่มเข้าสู่ระยะแพร่เชื้อเป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมงก่อนเกิดผื่น โดยผู้ป่วยจะยังอยู่ในระยะเวลาแพร่เชื้อจนกว่าจะเกิดสะเก็ดแผลครอบตุ่มน้ำทุกตุ่ม หลังจากนั้นจึงจะพ้นระยะของการแพร่เชื้อ ในผู้ป่วยบางคนอาจพบภาวะแทรกซ้อนของโรคสุกใส เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ภาวะปอดอักเสบ หรือสมองอักเสบ เป็นต้น
โรคสุกใสหรือโรคอีสุกอีใส เแพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางการสัมผัสกับแผลของผู้ป่วยหรือการหายใจเอาละอองฝอยของน้ำลาย น้ำมูกที่มีเชื้อปะปนในอากาศเข้าไป
แก้ไข
17/03/2565