พญ. ศรีสุภา เลาห์ภากรณ์
มะเร็งวิทยานรีเวช สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
การเลือกยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดไหนที่เหมาะกับเรา?
ยาคุมกำเนิดมีสองชนิด คือฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจนและโปรเจสติน) และฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสติน) ยาคุมกำเนิดแบบเม็ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ แบบฮอร์โมนรวม ส่วนแบบฮอร์โมนเดี่ยวพิจารณาใช้กรณีมีข้อห้ามใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรหลังคลอด หรือกรณีใช้เป็นยาคุมฉุกเฉินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม อาจมีจำนวนเม็ดในแผงยาได้แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่มีแผงละ 21 หรือ 28 เม็ด ซึ่งแตกต่างกันดังนี้
ฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจนที่มีในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมอาจเป็น ethinyl estradiol, mestranol หรือ estradiol (อาจอยู่ในรูป estradiol valerate) แต่ส่วนใหญ่มักเป็น ethinyl estradiol ซึ่งในอดีตมีปริมาณยาค่อนข้างสูง เช่น ethinyl estradiol 50 ไมโครกรัม ทำให้มีอาการไม่พึงประสงค์มาก ปัจจุบันมีปริมาณ ethinyl estradiol ไม่เกิน 35 ไมโครกรัม บางตำรับอาจมีเพียง 15-20 ไมโครกรัมเท่านั้น การใช้เอสโตรเจนขนาดต่ำจะลดอาการไม่พึงประสงค์ได้มาก โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ ท้องอืดและเจ็บคัดเต้านม อย่างไรก็ตาม อาจมีเลือดออกผิดปกติที่คล้ายประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอยได้ ฮอร์โมนแต่ละชนิดในกลุ่มเอสโตรเจนให้ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้พอๆ กัน เมื่อใช้ในปริมาณที่มีในผลิตภัณฑ์
ส่วนฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสตินที่มีในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมนั้นอาจเป็น levonorgestrel, norethisterone, gestodene, desogestrel, drospirenone, nomegestrol, dienogest หรือ cyproterone acetate ฮอร์โมนเหล่านี้ให้ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีพอๆ กัน
นอกจากการคุมกำเนิดแล้วยาคุมยังสามารถใช้รักษาประจำเดือนผิดปกติมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนออกมาก ปวดประจำเดือน ภาวะถุงน้ำในรังไข่ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ภาวะฮอร์โมนเพศชายเกิน เช่น ขนดก สิว หน้ามัน และยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ มะเร็งโพรงมดลูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เช่นกัน
สิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจในการเลือกใช้ยาคุมกำเนิด คือความมีวินัยในการทานสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ สิ่งสำคัญคือยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี และการติดเชื้อไวรัสเอสพีวี(HPV) รวมทั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดอุดตัน โดยเฉพาะกลุ่มสตรีอายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่ มีภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง รวมทั้งความเสี่ยงเล็กน้อยต่อมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นการเลือกยาคุมกำเนิดควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อควรระวังในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการใช้ยา ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อพิจารณาในการตัดสินใจก่อนทานยาคุมกำเนิด
การเลือกยาคุมกำเนิดควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อควรระวังในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการใช้ยา ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร
แก้ไขล่าสุด 27/07/63
มะเร็งวิทยานรีเวช สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช