อัญชลี เทียมสิงห์
อายุรกรรมโรคไต
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
การผ่าตัดปลูกถ่ายไตเป็นการรักษาทางเลือกเพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายและมีความสุข โรงพยาบาลรามคำแหงจึงพร้อมทุ่มเทช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางโรคไต เพราะชีวิตของผู้ป่วยสำคัญที่สุด ดังนั้นแพทย์จึงได้จัดเตรียมคู่มือไว้ให้ผู้ป่วยโรคไตได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น
เนื่องจากร่างกายของเรามีไตซึ่งทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งการควบคุมปริมาณสารน้ำและเกลือแร่ ควบคุมความเป็นกรดและด่าง ควบคุมความดันโลหิต ควบคุมการสร้างวิตามินดี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยผลิตฮอร์โมน Erythropoietin เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงหรือแม้แต่ช่วยขับน้ำและของเสียต่าง ๆ ในร่างกายออกมาทางปัสสาวะ หากเกิดภาวะไตวายหรือไตไม่ทำงาน ของเสียจะสะสมในร่างกายจนส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในต่าง ๆ และทำให้เสียชีวิต
เมื่อเกิดภาวะไตวายหรือไตไม่ทํางานก็ส่งผลให้ของเสียสะสมในร่างกายจนเกิดอาการ
เมื่อป่วยเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ต่อไป ปัจจุบันรักษาโรคไตวายเรื้อรังได้ 3 วิธี ได้แก่
วิธีนี้เป็นการนําเลือดของผู้ป่วยซึ่งมีของเสียปริมาณมากเข้าเครื่องฟอกเลือด โดยกรองของเสียจากเลือดและนําเลือดที่ผ่านกระบวนการฟอกแล้วกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วย การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจะทําสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง โดยทำครั้งละประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากฟอกเลือดแล้วร่างกายผู้ป่วยจะแข็งแรงขึ้นและสามารถดํารงชีวิตได้เหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยต้องมาฟอกเลือดที่ศูนย์ไตเทียมสม่ำเสมอ
วิธีนี้คือการใส่น้ำยาล้างไตเข้าไปในช่องท้องของตัวผู้ป่วย โดยใส่น้ำยาครั้งละ 2 ลิตร ทำวันละ 4 ครั้ง ในขณะที่น้ำยาอยู่ในช่องท้อง ของเสียต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกายจะแพร่ออกจากกระแสเลือดเข้าสู่น้ำยาในช่องท้อง ทำให้ของเสียในเลือดลดลง ดังนั้นผู้ป่วยจะกลับมามีสภาพร่างกายที่แข็งแรง หากล้างไตทางช่องท้องเป็นประจําทุกวัน
การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation) เป็นวิธีรักษาโรคไตวายเรื้อรังที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นให้ผลดีในระยะยาวพร้อมอัตรารอดชีวิตที่สูงเมื่อเทียบการรักษาอื่น โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท
ปัจจุบันผู้ป่วยไตวายที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตสําเร็จแล้ว จะมีอายุยืนยาวและกลับมาดํารงชีวิตได้ตามปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบอาชีพได้ หลังปลูกถ่ายไตแล้วผู้ป่วยสามารถตั้งครรภ์และมีบุตรได้ตามปกติ
ภาวะปฏิเสธไต คือภาวะที่ร่างกายเริ่มต่อต้านไตใหม่ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ หรือเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันก็ได้ เมื่ออวัยวะใหม่เข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันย่อมแปรผลเป็นสิ่งแปลกปลอม ซึ่งคล้ายคลึงกับปฏิกิริยาต่อต้านเชื้อโรคหรือมะเร็ง แพทย์จึงต้องรักษาทุเลาภาวะนั้นด้วยการให้ยากดภูมิคุ้มกันพร้อมให้ความรู้เรื่องผลข้างเคียงของยา
กรณีที่เกิดการปฏิเสธไตใหม่ หากได้รับการรักษาเร็วก็มีโอกาสที่ไตใหม่จะกลับมาทํางานได้เหมือนเดิม แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานอาจไม่สามารถแก้ไขได้
ผู้บริจาคต้องมีหมู่เลือดที่เข้ากันได้กับผู้รับ แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อดูว่าเข้ากันได้หรือไม่ โดยดูได้จากการตรวจแอนติเจนในระบบภูมิคุ้มกัน (HLA Typing) และการตรวจ DNA เพื่อดูความเข้ากันได้ทางพันธุกรรม หากมีลักษณะใกล้เคียง ก็สามารถกําหนดยีนที่ใช้ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้รับไตให้มีชีวิตอยู่ได้นาน
การตรวจผสมเลือด (Lymphocyte crossmatch) ยังเป็นวิธีการตรวจคาดคะเนเพื่อให้ทราบว่าผู้รับไตตอบสนองต่อเซลล์เม็ดเลือดของผู้บริจาคไตอย่างไร โดยการนำตัวอย่างเลือดของผู้บริจาคไตมาผสมกับเลือดของผู้รับไต ซึ่งจะให้ดีต้องไม่มีปฏิกิริยาตอบใด หากผลตรวจเป็นลบก็หมายความว่าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเซลล์ของผู้บริจาค ซึ่งมีโอกาสผ่าตัดปลูกถ่ายไตสำเร็จสูง
หากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การบริจาค ไต 1 ข้างก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจําวัน เนื่องจากไตข้างเดียวก็ยังสามารถที่รับภาระกําจัดของเสียและน้ำส่วนเกินตลอดจนหน้าที่อื่นได้มีประสิทธิภาพ โดยงานวิจัยในอดีตในรอบหลายสิบปีจากหลายประเทศทั่วโลกพบว่าการเหลือไตข้างเดียวไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไตอื่นตามมาเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้บริจาคไต หรือถ้ามีก็น้อยมาก เช่น ความดันโลหิตอาจสูง มีไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ และอายุขัยก็ยืนยาวเท่าคนปกติ
สอบถามและลงทะเบียนสมัครรอรับไตบริจาคติดต่อ 064-5646059
อายุรกรรมโรคไต
อายุรกรรมโรคไต
อายุรศาสตร์โรคไต