พญ. ศรีสุภา เลาห์ภากรณ์
มะเร็งวิทยานรีเวช สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ภาวะเลือดออกผิดปกติในสตรีวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง
(Postmenopausal bleeding)
วัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง คือช่วงอายุที่รังไข่หยุดสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้มีการขาดหายไปของประจำเดือน วินิจฉัยได้จาก อาการขาดประจำเดือนติดต่อกัน 1 ปี หรือตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมนที่บ่งบอกการเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนที่สำคัญ ได้แก่ ระดับ FSH ที่สูงขึ้น และเอสโตรเจนชนิด estradiol (E2) ที่ลดลง วัยหมดประจำเดือนเกิดขึ้นได้ระหว่างอายุ 45-55 ปี เฉลี่ยที่ 51 ปี ดังนั้นสตรีที่มีเลือดออกผิดปกติหลังวัยหมดประจำเดือนจึงควรรีบมาตรวจเพื่อหาสาเหตุ และได้รับการดูแลรักษา อุบัติการณ์ภาวะเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือนพบได้ประมาณ 4-11 %
เป้าหมายหลักการรักษาคือ ต้องหาสาเหตุเพื่อแยกโรคมะเร็งออก โดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ส่งตรวจอัลตร้าซาวด์และเก็บชิ้นเนื้อโพรงมดลูกส่งตรวจ สตรีที่มีความเสี่ยงมะเร็งโพรงมดลูก เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น โดยพบความชุกของมะเร็งโพรงมดลูก 1.4 % ในสตรี อายุ 50-70 ปี, ได้รับยาฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างเดียว (กรณีมีมดลูก), ได้รับยาทาม็อกซิเฟน (Tamoxifen) , ประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี (late menopause 55), ไม่เคยมีบุตร (nulliparity), ภาวะถุงน้ำรังไข่ (PCOS), ภาวะอ้วน (obesity), โรคเบาหวาน (DM), โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น Lynch syndrome, Cowden syndrome เป็นต้น
ภาวะเลือดออกในหญิงวัยหมดระดู วัตถุประสงค์หลัก คือ สามารถแยกภาวะมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนการเป็นมะเร็งออกไปให้ได้
ทุกช่วงวัยไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์และวัยหมดประจำเดือนมีโอกาสที่จะพบเลือดออกผิดปกติได้ เมื่อมีภาวะดังกล่าวควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา โดยเฉพาะสตรีหลังวัยหมดประจำเดือนต้องหาสาเหตุแยกโรคมะเร็งออกให้ได้
การขาดหายไปของประจำเดือน วินิจฉัยได้จากอาการขาดประจำเดือนติดต่อกัน 1 ปี หรือตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน การเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนที่สำคัญ สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างอายุ 45-55 ปี สตรีที่มีเลือดออกผิดปกติหลังวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง ควรรีบมาตรวจเพื่อหาสาเหตุ และได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
แก้ไข
29/03/2565
มะเร็งวิทยานรีเวช สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช