โรคเหงือกอักเสบ อันตรายที่มีโอกาสเกิดได้ อยู่ภายในช่องปาก

December 13 / 2023

 

โรคเหงือกอักเสบ อันตรายที่เกิดในช่องปาก

 

 

เหงือกอักเสบ (gingivitis) คือ สภาวะการอักเสบที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อช่องปากในส่วนที่เรียกว่าเหงือก โดยมีลักษณะบวม แดง มีเลือดออกง่าย เนื่องจากเหงือกอักเสบเป็นโรคที่ไม่ได้มีความรุนแรง คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้ให้ความสนใจในการดูแลรักษา แต่เมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานานจะนำไปสู่โรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis) ที่มีความรุนแรงมากขึ้นและอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด

 

 

 

สาเหตุของเหงือกอักเสบ

 

สาเหตุหลักที่พบได้บ่อย ได้แก่ การสะสมของคราบจุลินทรีย์หรือคราบพลัค และภาวะอาหารอัดติดตามซอกฟัน (food impaction)

 

  • คราบจุลินทรีย์ เกิดจากการสะสมตัวของแบคทีเรีย เศษอาหารขนาดเล็กและน้ำลาย จับรวมตัวกันเป็นคราบที่มีลักษณะนิ่มแต่เหนียว เมื่อสะสมตัวเป็นเวลานาน สารพิษที่เกิดจากแบคทีเรียจะทำให้เหงือกระคายเคืองเกิดปฏิกิริยาการอักเสบ นอกจากนี้เมื่อคราบจุลินทรีย์สะสมนานจะค่อยๆมีสภาพแข็งตัว เนื่องจากเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุจากน้ำลาย ทำให้มีลักษณะแข็ง หรือที่เรามักเรียกว่าหินน้ำลายหรือหินปูนซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถกำจัดหินปูนออกได้ด้วยตนเอง
     
  • ภาวะอาหารอัดติดซอกฟัน มักเกิดจากการเรียงตัวของฟันที่ไม่ดีหรือการบูรณะฟันที่ไม่ดีพอ ทำให้อาหารอัดติดค้างอยู่ในซอกฟัน เมื่อติดเป็นเวลานานก็ทำให้เหงือกช้ำเกิดการอักเสบและอาจทำให้เกิดฟันผุได้ด้วย

 

 

อาการของเหงือกอักเสบ

 

เหงือกปกติจะมีสีชมพูอ่อน เนื้อเหงือกแน่น ไม่มีลักษณะบวมน้ำ เมื่ออักเสบจะมีการบวมน้ำ สีแดงอมม่วง มีเลือดออกง่ายเวลาสัมผัสโดนเหงือกจะสูญเสียการยึดเกาะกับผิวฟัน บางรายมีการบวมเป็นหนองและลุกลามต่อไปเป็นโรคปริทันต์อักเสบต่อไป ซึ่งอาจทำให้เกิดฟันโยกและสูญเสียฟันในที่สุด

 

 

การรักษาเหงือกอักเสบ

 

โดยพื้นฐานการรักษาควรเริ่มต้นจากการกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งในกรณีเหงือกอักเสบทั่วไป สาเหตุเกิดจากคราบจุลินทรีย์ เศษอาหารติดซอกฟันและหินน้ำลาย

 

  • คราบจุลินทรีย์และเศษอาหาร ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเองด้วยการแปรงฟันและใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดซอกฟัน (ซึ่งซอกฟันเป็นบริเวณที่การแปรงฟันไม่สามารถทำได้) เช่น ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟันโดยสามารถขอคำแนะนำได้จากทันตแพทย์
  • คราบหินน้ำลาย สามารถกำจัดออกได้ โดยมารับการรักษาจากทันตแพทย์ทั่วไป หรือหากคราบหินน้ำลายลงลึกใต้เหงือกควรพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการเกลารากฟันหรือขูดหินปูนใต้เหงือก
  • เศษอาหารติดซอกฟัน ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยว่าสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีใดได้บ้าง เช่น อุดฟัน ครอบฟัน หรืออาจแก้ไขโครงสร้างฟันบริเวณที่มีปัญหานั้นได้
  • นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ช่วยเสริมให้เหงือกอักเสบเป็นรุนแรงมากกว่าปกติ เช่น โรคเบาหวาน การสูบบุหรี่ ยาบางชนิด ซึ่งต้องพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

 

 

 

เหงือกอักเสบ มีลักษณะบวม แดง เลือดออกง่าย เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ได้มีความรุนแรง คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้ให้ความสนใจในการดูแลรักษา แต่เมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานานจะนำไปสู่โรคปริทันต์อักเสบที่มีความรุนแรงมากขึ้นและอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด

 

 

นัดพบแพทย์คลิก

ทพ.ภาณุวัฒน์ ไตรภัทรนันท์

ทันตแพทย์ผู้ชำนาญการด้านทันตกรรมโรคเหงือกอักเสบและปริทันต์

 

 

แก้ไข

31/07/2566