บทความสุขภาพโรงพยาบาลรามคำแหง ฟันผุ รู้ก่อน...ไม่ต้องอุดฟัน

February 22 / 2024

 

ฟันผุ รู้ก่อน...ไม่ต้องอุดฟัน

 

 

การพบฟันผุโดยการตรวจฟันด้วยตนเอง หรือโดยทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันเริ่มผุระยะแรกเป็นสิ่งสำคัญมาก ก่อนอื่นมารู้จักลักษณะของฟันผุกันก่อน

 

 

ลักษณะของฟันผุ

 

1. ฟันผุระยะเริ่มแรกในชั้นผิวเคลือบฟัน ฟันผุชนิดนี้จะยังไม่มีรู ลักษณะที่พบจะเป็นรอยขุ่นขาวบนด้านเรียบของฟัน หรือเป็นเส้นสีน้ำตาลดำในร่องฟัน การผุของฟันในระยะนี้มีความสำคัญมาก ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อรักษาให้ฟันกลับแข็งแรงตามเดิม หยุดกระบวนการของฟันผุทำให้ไม่ต้องอุดฟัน

 

 

 

2. ฟันผุที่เห็นเป็นรู เมื่ออ้าปากตรวจฟันด้วยตนเองแล้วพบฟันผุเป็นรูทั้งในชุดฟันน้ำนมและฟันแท้ แสดงว่าการผุของฟันอยู่ในระยะลุกลามแล้ว ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อการรักษาทันที ไม่ควรรอจนรับประทานอาหารไม่ได้ หรือมีอาการปวด ฟันผุที่ไม่รักษาสามารถลุกลามถึงประสาทฟันทำให้ต้องรักษารากฟัน หรือถอนฟัน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง

 

 

 

ทำไมฟันผุ จะสามารถกลับไปแข็งแรงได้

 

ปัจจุบันทฤษฏี “Ecological plaque hypothesis” เชื่อว่าฟันผุเกิดจากสภาพแวดล้อมในปากที่ไม่เหมาะสม ทำให้เชื้อโรคในพลัคที่ก่อให้เกิดกรดเจริญเติบโตได้ดี มีจำนวนมาก จึงผลิตกรดออกมาได้เยอะทำให้เกิดภาวะการสูญเสียแร่ธาตุ (demineralization) แคลเซียมซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวเคลือบฟันจะละลายตัว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฟันผุ ฟันจะมีลักษณะขุ่นขาว เมื่อมีการสูญเสียของแคลเซียมมากขึ้นเรื่อยๆ โครงสร้างของฟันถูกทำลายจนเป็นรู ดังนั้นในปัจจุบันการรักษาฟันผุจะเริ่มเร็วขึ้นตั้งแต่พบฟันผุระยะเริ่มแรกของผิวเคลือบฟัน โดยการปรับสมดุลในปาก เพื่อให้เหมาะสมสำหรับการคืนกลับของแร่ธาตุ (remineralization) ทำให้ฟันไม่ผุลุกลามต่อจนเป็นรู

 

 

การปรับสภาพในช่องปากที่เอื้อให้เกลือแร่คืนกลับ

 

1. การแปรงฟัน ขจัดพลัคให้สะอาดด้วยการแปรงฟัน ทั้งในตอนเช้าและก่อนนอน

2. การใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ความเข้มข้น 1,450-1,500 พีพีเอ็ม ช่วยให้แคลเซียมคืนกลับสู่ผิวเคลือบฟัน เกิดผลึกผิวเคลือบฟันใหม่ที่แข็งแรง

3. ปรับพฤติกรรมการกิน เชื้อแบคทีเรียในช่องปากใช้อาหาร ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาลในการยังชีพ และมีการผลิตกรดพฤติกรรมการกินที่เหมาะสมจะลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ ดังนั้นควรมีนิสัยกินอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ (อาหารเช้า-กลางวัน-เย็น) และกินอาหารว่างไม่เกินวันละ 2 ครั้ง/วัน การกินขนมควรกินในมื้ออาหาร หรือมื้ออาหารว่างเท่านั้น นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญมากคือการกินแต่ละมื้อไม่ควรใช้เวลาเกิน 20 นาที การใช้เวลาในการกินนาน ฟันมีโอกาสสัมผัสกับกรดนานทำให้เกิดการสูญเสียเกลือแร่มากขึ้น ดังนั้นเวลารับประทานควรหลีกเลี่ยงการเล่นเกมและการแชท  

 

 

 

ทันตแพทย์จะช่วยรักษาอย่างไร

 

เมื่อตรวจพบรอยขุ่นขาวบนฟัน รีบไปพบทันตแพทย์เพื่อขัดฟัน ขจัดพลัคที่ติดบนตัวฟันให้สะอาด ทันตแพทย์จะทาฟลูออไรด์เฉพาะที่ความเข้มข้นสูงถึง 22,600 พีพีเอ็ม ทุก 3-6 เดือน เพื่อเร่งการคืนกลับของเกลือแร่ หยุดยั้งกระบวนการเกิดฟันผุของผิวฟันด้านเรียบ ส่วนการผุระยะเริ่มแรกในบริเวณร่องฟัน ทันตแพทย์จะเคลือบพลาสติกร่องฟันเพื่อป้องกันไม่ให้พลัคเข้าไปสะสม

 

 

นอกจากนี้ทันตแพทย์อาจถ่ายภาพรังสี เพื่อการตรวจอย่างละเอียดหารอยผุในบริเวณที่ไม่สามารถเห็นได้ การตรวจในช่องปากพบลักษณะรอยผุคล้ายรอยผุระยะเริ่มแรก ภายหลังจากการถ่ายภาพรังสีจะพบรอยผุขนาดใหญ่ใกล้โพรงประสาทฟัน ทันตแพทย์จะสามารถรักษาฟันได้อย่างเหมาะสม ป้องกันการปวดฟัน และยับยั้งไม่ให้ฟันผุถึงประสาทฟัน

 

        

 

หยุดฟันผุ สร้างการคืนกลับของเกลือแร่...ก่อนฟันเป็นรู

 

1. แปรงฟันให้สะอาด ด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ 1,450 พีพีเอ็ม

2. ปรับพฤติกรรมการกิน อาหารหลัก 3 มื้อ, อาหารว่างไม่เกิน 2 มื้อ

3. ใช้เวลากินน้อยกว่า 20 นาที/มื้อ

4. รีบไปพบทันตแพทย์

 

 

 

ตรวจฟันเป็นประจำทุก 6-12 เดือน เพื่อป้องกันฟันผุ และโรคปริทันต์ ฟันดี เหงือกดี ทำให้กินอาหารอร่อย

 

 

นัดพบแพทย์คลิก

ทพญ.พรพรรณ อัศวาณิชย์

ทันตแพทย์ผู้ชำนาญการด้านทันตกรรมเด็ก

 

 

แก้ไข

31/07/2566