เนื้องอกรังไข่ อาการเป็นอย่างไร จำแนกได้ได้ทั้งหมดกี่ประเภท

January 30 / 2025

 

 

เนื้องอกรังไข่

 

 

เนื้องอกรังไข่

 

 

พญ. ศรีสุภา เลาห์ภากรณ์

สูติ - นรีเวช ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งวิทยานรีเวช
และการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

 

 

 

     รังไข่ (Ovary) คืออวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงที่มีขนาดราว 2-3 เซนติเมตรและอยู่ข้างปีกมดลูกทั้งซีกซ้ายและขวา หน้าที่หลักมีสองอย่างคือการผลิตไข่ ซึ่งตกมาผสมกับน้ำเชื้อฝ่ายชายกลายเป็นตัวอ่อน ก่อนไปฝังตัวที่โพรงมดลูกจนเกิดการตั้งครรภ์ อีกหน้าที่หนึ่งคือการสร้างเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง

 

 

เนื้องอกรังไข่

 

 

พยาธิวิทยาของเนื้องอกรังไข่

รังไข่นั้นพัฒนามาจากเซลล์ตั้งต้นสามชนิด ได้แก่

 

  • เซลล์เยื่อบุช่องว่างในตัวอ่อนทารกเพศหญิงระยะแรก (Coelomic epithelium) 
  • Primordial germ cells ซึ่งย้ายมาจาก yolk sac 
  • Mesenchyme ที่บริเวณ Genital ridge

 

 


ดังนั้นจึงสามารถจำแนกเนื้องอกรังไข่ออกตาม histogenesis เป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้


 

 

การแบ่งประเภทของเนื้องอกรังไข่

  • ต้นกำเนิดมาจากเซลล์เยื่อบุ Coelomic epithelium หรือเรียกว่า เนื้องอกรังไข่ชนิดเยื่อบุผิว (epithelial tumors) พบบ่อยที่สุดของมะเร็งรังไข่ ประมาณ 90-95%
  • ต้นกำเนิดมาจาก Germ cells (รายละเอียดจะได้กล่าวต่อไป)
  • ต้นกำเนิดมาจาก Specialized gonadal stroma หรือที่เรียกว่า sex-cord stromal tumors
  • ต้นกำเนิดมาจาก Nonspecific mesenchyme เช่น Fibroma, Hemangioma, Leiomyoma, Lipoma, Lymphoma, Sarcoma
  • มะเร็งที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น เช่น ทางเดินอาหาร (Krukenberg) เต้านม เยื่อบุโพรงมดลูกและ Lymphoma

 

 

 

เนื้องอกรังไข่

 

ชนิดเนื้องอกรังไข่ที่พบบ่อย

     เนื้องอกของรังไข่ชนิดที่พบบ่อยที่สุด คือ ชนิดเยื่อบุผิว (epithelial tumors) ซึ่งพบร้อยละ 60-65 ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมด และประมาณร้อยละ 90 ของเนื้องอกรังไข่เป็นมะเร็ง  ส่วน germ cell tumors พบประมาณร้อยละ 30 ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็น mature cystic teratoma (dermoid cysts) แม้ว่า germ cell tumors จะพบเพียงร้อยละ 1-3 ของเนื้องอกรังไข่ที่เป็นมะเร็งทั้งหมด แต่คิดเป็นร้อยละ 60 ของมะเร็งรังไข่ของสตรีวัยเด็กและวัยรุ่น ส่วน sex-cord stromal tumors พบเป็นร้อยละ 8 ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมด

 

เนื้องอกรังไข่ชนิด Germ Cell Tumors

     ประมาณร้อยละ 30 ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมดมีต้นกำเนิดมาจาก germ cells อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาเฉพาะมะเร็งรังไข่พบว่าต่ำกว่าร้อยละ 5 ที่เป็นชนิดนี้ อย่างไรก็ตามในสตรีอายุน้อยกว่า 20 ปี germ cell tumors เป็นเนื้องอกชนิดนี้พบบ่อยที่สุด องค์การอนามัยโลกแบ่งเนื้องอกชนิดนี้ออกเป็น

 

  • Teratoma (immature, mature and monodermal)
  • Dysgerminoma
  • Yolk sac tumor (endodermal sinus tumor)
  • Embryonal carcinoma
  • Polyembryoma
  • Choriocarcinoma
  • Mixed germ-cell tumors

 

 

 

เนื้องอกรังไข่

 

 

Teratoma, Mature Teratoma หรือ Dermoid cyst

     เป็นเนื้องอกที่ประกอบขึ้นจากเนื้อเยื่อที่มาจากตัวอ่อน โดย mature cystic teratoma เป็นชนิดของ germ cell tumors ที่พบบ่อยที่สุดและ benign ส่วนใหญ่เป็นข้างเดียว แต่ร้อยละ 15-20 เป็นสองข้าง เนื้องอกรังไข่ชนิดนี้เป็นเหตุที่ทำา ใหรังไข่บิดขั้วได้บ่อยที่สุด อาจพบขนและฟันได้ภายในก้อน ซึ่งมองเห็นได้จากภาพถ่ายทางรังสีของช่องท้อง พบการกลายไปเป็นมะเร็ง (malignant transformation) ได้ถึงร้อยละ 2 โดยกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งชนิดสแควมัส บ่อยที่สุด ส่วนมะเร็งชนิดที่มีเซลล์เนื้อเยื่อของไธรอยด์เด่น เรียกว่า struma ovarii เนื้องอก carcinoidtumors ที่รังไข่แบบปฐมภูมิยังจัดอยู่ในกลุ่มของ monodermal teratoma ที่แปรปรวนไปและมักมีพยากรณ์โรคที่ดีแต่เนื้องอก carcinoid tumors ที่รังไข่แบบทุติยภูมิมักแพร่กระจายมาจากทางเดินอาหารและมีพยากรณ์โรคที่แย่เนื้องอกรังไข่ชนิด mature cystic teratoma หรือ เดอมอย(dermoid cyst) เป็นเนื้องอกรังไข่กลุ่ม germ cell เป็นเนื้องอกรังไข่ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยพบได้ประมาณร้อยละ 10-15 ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมด และเป็นเนื้องอกที่พบบ่อยที่สุดถึงร้อยละ 70 ในสตรีที่อายุน้อยกว่า 20 ปี และพบได้ 20% ในสตรีวัยหลังหมดประจำเดือน ส่วนใหญ่ของก้อนจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อของชั้น ectoderm, mesoderm และ/หรือ endoderm ดังนั้น ส่วนประกอบของก้อนจึงพบว่ามีถุงน้ำหลายอัน มีเส้นผม ไขมันที่ข้นและเหนียว บางครั้งมีฟัน กระดูกแข็ง และกระดูกอ่อนร่วมด้วยสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของ germ cell ในระยะไมโอซิส II (meiosis II) หรือจาก premeioticcell ระยะไมโอซิส I (meiosis I) ล้มเหลว กล่าวให้เข้าใจง่ายคือเซลล์ต้นกำเนิดสืบพันธ์มีการแบ่งตัวผิดปกติ

 

 


ลักษณะก้อนพบทั้ง 2 ข้างประมาณร้อยละ 10-15 ขนาดก้อนส่วนมากเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 15 ซม. ลักษณะเป็นก้อนกลมผิวเรียบ เป็นมัน เปลือกหุ้มเนื้องอกชนิดนี้มักหนา บุด้วยเซลล์ squamous ใต้เยื่อบุมีส่วนประกอบของผิวหนัง เช่น ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ ถ้าผ่าก้อนเนื้อจะพบไขมันข้น เหนียวสีเหลืองและมีเส้นผมอยู่ด้วย อาจพบฟันหรือกระดูกอยู่ภายใน


 

 

อาการที่พบบ่อยของเนื้องอกรังไข่

  • อาการอาจเกิดจากก้อนโตกดเบียดอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะข้างเคียง เช่น ปัสสาวะบ่อยขึ้น ท้องผูก หรือถ่วงท้องน้อย
  • อาการปวดท้องเฉียบพลัน เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดกับก้อนเนื้องอก เช่น การบิดขั้ว การแตกของก้อน และการติดเชื้อ
  • มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก พบได้ร้อยละ 15 อาจเกิดร่วมโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อาการอื่นๆ เช่น เบื่ออาหาร อืดแน่นท้อง
  • ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ พบได้เป็นส่วนใหญ่ อาจตรวจพบก้อนจากการตรวจภายในหรือจากการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงของอุ้งเชิงกราน

 

 

 

เนื้องอกรังไข่เนื้องอกรังไข่เนื้องอกรังไข่

 

 

ภาวะแทรกซ้อนของเนื้องอกรังไข่

     การตรวจร่างกายจะพบก้อนที่ท้องน้อย และ/หรือตรวจพบก้อนที่ปีกมดลูกจากการตรวจภายใน ลักษณะก้อนจะเป็นก้อนถุงน้ำ ตึงแข็งผิวเรียบ จับ เคลื่อนไหวได้ก้อนอาจจะพลิกมาอยู่ทางด้านหน้าของ broad ligament ดันมดลูกไปทางด้านหลัง ภาวะแทรกซ้อนของ dermoid cyst ที่พบได้ ได้แก่

 

1.  การบิดขั้ว (Torsion)

     การบิดขั้วเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากที่สุด คือ พบประมาณร้อยละ 16 ของเนื้องอก มักพบในเนื้องอกขนาดเล็กหรือปานกลางมากกว่าเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่ เมื่อมีการบิดขั้วในระยะแรก จะทำให้เกิดเลือดดำ คั่งและเนื้อเยื่อในก้อนเนื้องอกบวมเป็นเหตุให้มีอาการปวด หากการบิดนั้นยังคงอยู่ต่อไปจะทำให้เลือดในหลอดเลือดแดงหยุดไหลเกิดการขาดเลือด อาการปวดอาจจะไม่มากถึงรุนแรงมาก นอกจากนั้นผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ชีพจรเต้นเร็ว มีไข้ กดเจ็บบริเวณท้องน้อยส่วนล่างร่วมกับ guarding, rigidity ตรวจภายในพบก้อนที่ปีกมดลูกและกดเจ็บ ภาวะนี้จัดเป็นภาวะฉุกเฉินต้องได้รับการผ่าตัดอย่างรีบด่วนเนื่องจากก้อนเนื้องอกอาจแตกและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

2.  การแตกของก้อนเนื้องอก (Rupture)

     การแตกหรือรั่วของ dermoid cyst พบได้น้อยคือประมาณร้อยละ 1 พบบ่อยขึ้นในขณะตั้งครรภ์ถ้าก้อนเนื้องอกแตกของเหลวในเนื้องอก เช่น cholesterol-laden debris จะทำให้เยื่อบุช่องท้องอักเสบมาก มี granulomatous reaction และเกิดพังผืดแน่นหนาตามมา อาการที่พบได้แก่ ปวดท้อง บางรายมีอาการซีด หากมีเลือดออกในช่องท้องร่วมด้วยโดยทั่วไปต้องทำการผ่าตัดอย่างรีบด่วน เพื่อล้างเอาของเหลวจากเนื้องอกออกให้มากที่สุด

 

3.  การติดเชื้อ (Infection)

     การติดเชื้อพบได้น้อยประมาณร้อยละ 1อาการที่พบได้แก่ มีอาการไข้ร่วมกับปวดท้องน้อยร่วมกับตรวจพบก้อนในอุ้งเชิงกราน เชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็นเชื้อแบคทีเรียพวก coliform ส่วนเชื้ออื่นๆ ที่อาจพบได้คือ Salmonella เป็นต้น

 

4.  การกลายเป็นมะเร็ง

     พบได้ไม่บ่อยนักประมาณร้อยละ 1-23 ของ dermoid cyst และ ร้อยละ 80 ของก้อนที่กลายเป็นมะเร็งนี้เป็นชนิดเซลล์ squamous แต่อาจพบเซลล์มะเร็งประเภทอื่นได้ เช่น sarcoma หรือ malignant melanoma ได้

 

การรักษาเนื้องอกรังไข่

  • เนื้องอกรังไข่รักษาโดยการผ่าตัดเนื้องอกรังไข่ เพื่อได้ชิ้นเนื้อวินิจฉัย และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน เช่น ก้อนแตก หรือบิดขั้ว
  • พิจารณาผ่าตัดเลาะเอาเฉพาะส่วนเนื้องอกออก (cystectomy) ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน ในกรณีอายุน้อยหรือต้องการมีลูกในอนาคต
  • พิจารณาตัดรังไข่ออกกรณีสงสัยมะเร็ง หรือก้อนมีภาวะแทรกซ้อน

 

 


ตรวจให้รู้ก่อนสาย ไม่มีอาการใดๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีโรค เพราะหากถุงน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นต้องถูกตัดรังไข่


 

 

แก้ไขล่าสุด 15/12/63