นอนกรน (Snoring) เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

December 10 / 2024

 

 

 

 

นอนกรน เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

 

 

 

 

     นอนกรน (Snoring) คือภาวะหายใจเสียงดังผิดปรกติขณะนอนหลับ ซึ่งเกิดจากการปิดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนบางส่วน และกรนดังมากขึ้นเมื่ออยู่ในท่านอนหงาย พบได้มากในเพศชาย และจะมีอาการหนักขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น บางรายที่ไม่รุนแรงสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น นอนตะแคง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน

 

 

 

นอนกรน

 

 

 

นอนกรนเกิดจากอะไร

     ภาวะนอนกรนเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอหอยและผนังลำคอขณะหลับ ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน ผนังคอหอย โคนลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบลง การหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงเกิดเสียงกรนในที่สุด เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะส่งผลต่อการหายใจ ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ชั่วขณะหนึ่งหรือเรียกว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

 

 

 

นอนกรน

 

 

 

ปัจจัยที่ก่อเกิดภาวะนอนกรน

อาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่

 

  • น้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่มีน้ำหนักมากจะมีทางเดินหายใจส่วนบนแคบกว่าผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • มีอาการของโรคภูมิแพ้บริเวณจมูก
  • มีสันจมูกเบี้ยวหรือคด รูปหน้าหรือคางผิดปกติ เช่น คางเล็ก คางหลุบ
  • ต่อมทอนซิลโตขวางทางเดินหายใจ
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ
  • การรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง เช่น ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาคลายเครียด
  • ผู้ชายมีโอกาสนอนกรนมากกว่าผู้หญิง 6-10 เท่า
  • ผู้หญิงจะมีอาการนอนกรนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าวัยหมดประจำเดือน

 

ความรุนแรงของการนอนกรน แบ่งได้ 3 ระดับ

  • ความรุนแรงระดับ 1 คือการนอนกรนทั่วไป ไม่บ่อย และมีเสียงไม่ดังมาก ซึ่งยังไม่ส่งผลต่อการหยุดหายใจในขณะนอนหลับ แต่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของบุคคลที่นอนข้าง ๆ
  • ความรุนแรงระดับ 2 คือการนอนกรนที่เกิดขึ้นบ่อยหรือมากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ การนอนกรนในระดับนี้อาจส่งผลต่อการหายใจในระดับน้อยถึงปานกลางในขณะนอนหลับ ทำให้รู้สึกง่วงและเหนื่อยในเวลากลางวัน 
  • ความรุนแรงระดับ 3 คือการนอนกรนเป็นประจำทุกวันและมีเสียงดัง การนอนกรนในระดับนี้มักเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดการปิดกั้นทางเดินหายใจบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 10 วินาที ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต

 

 

การรักษาอาการนอนกรน

     แพทย์แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเบื้องต้น กรณีผู้ที่มีภาวะนอนกรนในระดับที่ไม่รุนแรง เช่น ลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนเข้านอน เปลี่ยนท่านอนจากนอนหงายเป็นนอนตะแคง เป็นต้น ส่วนผู้ที่มีภาวะนอนกรนในระดับรุนแรงหรือมีสาเหตุการกรนมาจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์อาจมีแนวทางในการรักษาดังต่อไปนี้

 

  • การใช้อุปกรณ์ช่วยลดการนอนกรน จะใช้ในกรณีที่ไม่สามารถบรรเทาการนอนกรนได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  • การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถบรรเทาการนอนกรนได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการใช้อุปกรณ์ช่วยลดการนอนกรนได้
  • การใช้ยา เพื่อรักษาที่ต้นเหตุของการนอนกรน เช่น ยาต้านฮีสตามีน ในการบรรเทาอาการบวมและระคายเคืองในจมูกของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือยาแก้คัดจมูก แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานเกิน 7 วัน เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ 

 

 

 

นอนกรนนอนกรน

 

 

การนอนกรนส่งผลต่อทั้งสุขภาพของผู้ที่นอนกรนเองและรบกวนบุคคลที่นอนข้าง ๆ พบได้มากในเพศชาย และมีอาการหนักขึ้นเมื่ออายุมาก

 

 

 

แก้ไข

25/08/2565