โรคลมแดดกับการออกกำลังกาย เกิดได้แม้ไม่ใช่ฤดูร้อน

February 17 / 2025

ฮีทสโตรก ออกกำลังกาย

 

 

 

     แม้ว่าการวิ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย แต่ถ้าเราไม่มีการเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ดี ก็อาจเสี่ยงเกิดอันตรายขณะวิ่งได้ โดยอาการอันตรายที่เกิดจากการวิ่งมาราธอนที่เรามักพบเจอได้และอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต นั่นก็คือ โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ผู้คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะการวิ่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าช่วงนี้ในบ้านเรามีการจัดงานวิ่งหลายงานตั้งแต่ วิ่งมาราธอน มินิมาราธอนหรือการวิ่งระยะสั้นอย่างฟันรัน แน่นอนว่าการเกิดฮีทสโตรกแม้ไม่ได้อยู่ฤดูร้อนก็เกิดขึ้นได้ 

 

โรคลมแดด

     โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิในร่างกายที่สูงมากกว่า 40 องศา และร่างกายไม่สามารถลดอุณหภูมิลงได้จนส่งผลให้อวัยวะในร่างกายได้รับความเสียหายและทำงานผิดปกติ

 

 

ฮีทสโตรก ออกกำลังกาย

 

 

 

การออกกำลังกายทำให้เกิด Heat Stroke ได้อย่างไร?

     มีการรายงานถึงการเกิดภาวะฮีทสโตรกในฤดูกาลอื่นที่ไม่ใช่ฤดูร้อน ซึ่งเป็นผลมาจากความชื้นในอากาศที่สูงและไม่มีแรงลม ทำให้ไม่สามารถขับความร้อนและพัดพาความร้อนจากร่างกายไปได้ การออกกำลังกายที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฮีทสโตรกคือการออกกำลังกายที่นานกว่า 1 ชั่วโมง เช่น การวิ่งมาราธอน การเต้นแอโรบิก เป็นต้น

 

อาการของฮีทสโตรก

     อาการจากลมแดดเริ่มต้นจากอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน รู้สึกหน้ามืด เหงื่อออกน้อยหรืออาจไม่มีเหงื่อจนมีอาการของฮีทสโตรกคือ หมดสติ ชักเกร็ง

 

 

ฮีทสโตรก ออกกำลังกายฮีทสโตรก ออกกำลังกาย

 


การป้องกันการเกิดฮีทสโตรกขณะออกกำลังกาย

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • เลือกเสื้อผ้าที่บาง ระบายเหงื่อได้ดีและไม่ใส่เสื้อสีทึบ
  • หากออกกำลังกายกลางแจ้งที่นาน ควรเข้าพักในที่ร่มทุก 2 ชั่วโมงหรือถ้ามีอาการของลมแดดควรหยุดออกกำลังกายทันที
  • ควรมีการซ้อมเพื่อปรับร่างกายประมาณ 5-7 วัน โดยเริ่มจากเวลาสั้น ๆ ก่อน
  • งดทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ผู้ที่มีอาการลมแดดหรือฮีทสโตรก ควรงดการออกกำลังกายหลังจากการรักษา 1-2 อาทิตย์
     

การเตรียมตัวก่อนไปวิ่งมาราธอน

     สำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานการออกกำลังกายมาก่อนและอยากลองวิ่งมาราธอน หมอแนะนำให้เริ่มจากการเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการซ้อมวิ่งก่อน โดยมือใหม่หัดวิ่งควรเริ่มต้นด้วยการวิ่งเบา ๆ อย่างการวิ่งสลับเดิน ซึ่งใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 30 นาทีต่อวัน วิ่งประมาณ 3-5 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เนื่องจากการซ้อมวิ่งเบาจะทำให้ร่างกายคุ้นชินกับการใช้พลังงานมากขึ้น หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ พัฒนาการซ้อมให้จริงจังมากขึ้น

 

 

 

ฮีทสโตรก ออกกำลังกาย

 

 

การตรวจร่างกายก่อนวิ่งก็สำคัญ

     นอกจากการเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการซ้อมวิ่งแล้ว การตรวจร่างกายก่อนวิ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเน้นที่การประเมินโอกาสเสี่ยงเกิดอันตรายขณะวิ่ง เช่น การประเมินอัตราการใช้ออกซิเจน การตรวจสอบอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ รวมถึงโรคที่มีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการวิ่งมาราธอนอย่าง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หอบหืด เป็นต้น

 

 


นอกจากการเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการซ้อมวิ่งแล้ว การตรวจร่างกายก่อนวิ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยการตรวจจะเน้นไปที่การประเมินความเสี่ยงการเกิดอันตรายในขณะวิ่ง