'กุมารแพทย์' แจงภัยฝุ่นพิษ PM 2.5 พร้อมแบ่งปันวิธีดูแลตนเองและลูกน้อย

January 15 / 2025

 

 “กุมารแพทย์ รพ.รามคำแหง” แจงภัย “ฝุ่นพิษ PM 2.5”

 

ฝุ่นพิษ กุมารแพทย์ฝุ่นพิษ กุมารแพทย์

 

นพ.สิทธิวุฒิ ฟูตระกูล

กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด

 

 

 

     ฝุ่นพิษขนาดจิ๋วนี้มีอยู่ทั่วไปและเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้ เช่น การสูบบุหรี่ ประกอบอาหารปิ้งย่าง จุดธูปเทียน แม้กระทั่งการถ่ายเอกสารหรือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทราบกันดีอยู่แล้วคือการปล่อยควันพิษ ไอเสียจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้เชื้อเพลิง เช่น ถ่าน การเผาแผ้วถางป่า ปฏิกิริยาของแก๊สบนชั้นบรรยากาศจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาลรามคำแหงจึงได้รับเกียรติจากกุมารแพทย์มาร่วมวิธีดูแลตัวเองและลูกน้อยให้พ้นภัยจากฝุ่นพิษ PM 2.5

 

 

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

 

     

ชนิดและความรุนแรงของฝุ่นพิษ

     กรมควบคุมมลพิษได้กำหนดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า AQI ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิดรวมกัน ได้แก่ PM 2.5, PM 10, ก๊าซโอโซน (Ozone: O), ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) , ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO) และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)

 

 

 

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

 

อ้างอิงรูปภาพ : https://www.sangchaimeter.com/article/277/DIGICON_AQ-16Series

 

 

5 ระดับสีตามแบ่งความรุนแรงของฝุ่นพิษ 

เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนจึงแบ่งเป็น 5 ระดับสี โดยมีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งแจกแจงได้ดังนี้ 

 

  • สีฟ้า มีค่า AQI = 0-25 
  • สีเขียว มีค่า AQI = 26-50 ส่วน
  • สีเหลือง มีค่า AQI ที่ 51-100 
  • สีส้ม มีค่า AQI ที่ 101-200
  • สีแดง มีค่า AQI เกิน 201

 

 


หากมีระดับสีเหลืองขึ้นไปก็เท่ากับว่าเราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงลดการสัมผัส เฝ้าระวังสุขภาพและต้องใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันฝุ่นพิษจิ๋ว


 

 

ภัยจากฝุ่นพิษ PM 2.5 เพียงสูดเข้าไปก็อันตรายถึงชีวิต

     กรณีของฝุ่นพิษ PM 2.5 ตัวฝุ่นจะมีขนาดอยู่ที่ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 มวน โดยประมาณการว่าในปี 2565 ปริมาณ PM 2.5 ที่ชาวกรุงเทพมหานครได้สูดดมเข้าไปจะเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1,225 มวนต่อปีหรือเฉลี่ยวันละ 3.36 มวนต่อวัน ดังนั้นผลเสียเมื่อสูดดมเข้าไปจึงก่อเกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุทางเดินหายใจก่อนลงลึกไปถึงถึงลมเล็ก ๆ ในปอดและแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านหลอดเลือดฝอยเล็ก ๆ 

 

ผลกระทบของฝุ่นพิษ PM 2.5 ต่อระบบอื่น

ฝุ่นพิษ PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบหายใจและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนี้

 

1.  สารอนุมูลอิสระจากฝุ่นพิษมีก่อความเสียหายถึงรหัสพันธุกรรม (DNA, RNA)

     เนื่องจากถูกทำลายในระหว่างการแบ่งเซลล์ ทำให้ส่วนปลายสุดของโครโมโซมเทโลเมียร์ หดสั้นลงมากกว่าปกติ ทั้งยังก่อเกิดกระบวนการอักเสบตามมา

 

2.  สารอนุมูลอิสระจากฝุ่นพิษยังยับยั้งสารซ่อมเซม DNA 

     ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความผิดปกติแก่ทารกในครรภ์ ทำให้เกิดการกลายพันธุ์และส่งผลให้สารอนุมูลอิสระไปสะสมที่ตับ ซึ่งตามปกติแล้วตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เสมือนโรงงานกำจัดของเสีย โดยมีสารสำคัญหลายอย่างที่ช่วยกำจัดสารพิษ อย่างไรก็ตาม เมื่อสารสำคัญดังกล่าวเริ่มลดน้อยลงจึงส่งผลให้กำจัดพิษหรือของเสียอื่นในร่างกายได้ไม่มีประสิทธิภาพและเกิดโรคเรื้อรังอื่นตามมา

 

3.  ฝุ่นพิษมีผลกระตุ้นให้สารอักเสบในร่างกายเข้าทำลายเซลล์

     เริ่มต้นด้วยการสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้นจากกระบวนการอักเสบ ทำให้เกิดภูมิต้านทานของร่างกายตกต่ำ ติดเชื้อง่าย เกิดโรคภูมิแพ้และโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมองตีบและมะเร็งต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งปอด

 

อ่านเพิ่มเติม: ฝุ่น PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด

 

 

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

 

ผลกระทบที่จะเกิดกับสตรีมีครรภ์ที่มีการสัมผัสฝุ่น PM 2.5

  • เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดทารกน้ำหนักน้อย
  • คลอดก่อนกำหนด
  • ทารกตายเฉียบพลัน
  • ภาวะเครียดของทารกในครรภ์
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะออทิสติก
  • เจ็บป่วยง่าย
  • เกิดความพิการในทารก โดยเฉพาะโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เช่น กลุ่มพวกผนังกั้นหัวใจมีรูรั่ว
  • มีผลเสียต่อการเจริญเติบโตของสมอง ทำให้ขนาดสมองเล็กและพัฒนาการสมองโดยเฉพาะส่วนควบคุมการเคลื่อนไหวและกระบวนการคิดวิเคราะห์
  • เพิ่มโอกาสเสี่ยงเกิดหอบหืดในมารดาที่ตั้งครรภ์ร่วมกับภาวะครรภ์เป็นพิษ

 

 

 

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

 

 

ผลกระทบหลังเกิดจากการสัมผัสฝุ่นพิษขนาดจิ๋ว PM 2.5

ฝุ่นพิษขนาดจิ๋วยังเป็นผลร้ายตามติดทารกกระทั่งถึงวัยเด็กเล็ก

 

  • ในช่วงระหว่าง 0-3 ปีอาจมีปัญหาการหายใจผิดปกติ โดยจะเกิดภาวะง่วงนอนมากตอนกลางวัน
  • เด็กแรกคลอดจะมีระบบทางเดินหายใจที่ไม่แข็งแรง ส่งผลให้ต้องดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤตพบมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • สุขภาวะการนอนของเด็กที่ถูกรบกวน โดยเฉพาะการหายใจผิดปกติระหว่างการนอน ภาวะหยุดหายใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนและอาจทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนไม่สามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็กป้องกันฝุ่น pm 2.5 เด็ก

 

 

วิธีดูแลตนเองจาก PM 2.5

  • หลีกเลี่ยง ลด และงดกิจกรรมการแจ้ง ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดและปรับสภาพอุณหภูมิห้องไม่ให้สูงเกินไปด้วยการอากาศให้ถ่ายเทสะดวก
  • สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันที่สามารถกรองฝุ่นพิษ PM 2.5 หากปริมาณค่า AQI มากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต้องสวมใส่หน้ากาก N 95
  • รณรงค์การใช้ยานพาหนะที่เป็นระบบไฟฟ้าแทนการเผาไหม้เชื้อเพลิงเดิม โดยหันมาใช้รถขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัวหรือรถจักรยาน จำกัดจำนวนปริมาณยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง Fossil fuels ในเขตพื้นที่จราจรคับคั่ง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดฝุ่นพิษ เช่น การสูบบุหรี่ จุดธูปเทียน การปรุงอาหารปิ้งย่าง
  • ที่พักอาศัยติดตั้งเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพกำจัดฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้และหมั่นล้างทำความสะอาดให้ระบายอากาศได้ดีอยู่เสมอ
  • เสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ โดยให้เลี่ยงการออกกำลังกายในที่แจ้งถ้าค่า AQI มากกว่า 50
  • รับประทานอาหารผัก ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินเอ ซีและอี ดื่มน้ำอย่างน้อย 8- 10 แก้วต่อวัน...พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ 8 ชั่วโมงต่อวัน ลดความเครียด มีอารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอ
  • สร้างเมืองพื้นที่สีเขียว เพื่อดูดซับปริมาณฝุ่นในอากาศได้มากขึ้น

 

 

 

ป้องกันและดูแลตัวเองจากฝุ่น pm 2.5ป้องกันและดูแลตัวเองจากฝุ่น pm 2.5ป้องกันและดูแลตัวเองจากฝุ่น pm 2.5

 

 

สตรีมีครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุครรภ์น้อยกว่า 6 เดือนควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสฝุ่นพิษจิ๋ว หากมีกิจกรรมกลางแจ้งควรตรวจสอบค่าดัชนีคุณภาพอากาศควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไว้เสมอหากจำเป็นต้องออกไปสัมผัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้