พญ. ตวงพร ตุรงค์สมบูรณ์
กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ที่มีหลายสายพันธุ์ และอาจมีการระบาดของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี
โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสละอองฝอยของสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะเข้าทางจมูกและปากโดยตรง บางครั้งอาจติดจากการสัมผัสเชื้อบนพื้นผิววัตถุ เช่น ลูกบิด ราวบันได จนเผลอใช้มือสัมผัสโดนจมูก ปาก หรือตา โดยเชื้อจะฟักตัว 1-4 วัน ก่อนแพร่กระจายหลังมีอาการ 5-7 วัน
กระทรวงสาธารณสุขคาดประมาณจํานวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งประเทศถึง 7-9 แสนรายต่อปี โดยเป็นผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง 1-7 หมื่นรายต่อปี และมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนถึงร้อยละ 2.5
โรคไข้หวัดใหญ่ มักมีอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาและมักเกิดขึ้นทันทีทันใด
ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หูชั้นกลาง ไซนัสอักเสบ ไข้ชักในเด็ก เป็นต้น
ปัจจุบันมีการตรวจไข้หวัดใหญ่ด้วยสิ่งส่งตรวจจากทางเดินหายใจ โดยใช้ไม้พันสำลีป้ายบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกและนำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ สามารถทราบผลได้ภายใน 40-60 นาที
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) เป็นการป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งฉีดได้กับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกราย เมื่อได้รับวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ร้อยละ 50 - 95 ซึ่งภูมิคุ้มกันโรคจะอยู่ได้นานราว 1 ปี ดังนั้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี ปีละ 1 เข็ม
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หากเกิดในเด็กหรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงมากเนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคต่ำทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ในบางรายอาจรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิต ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
แก้ไขล่าสุด 08/10/64
กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ