พญ. ปานวาด มั่นจิต
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
แพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
นอกจาก COVID-19 มุ่งเน้นทำลายระบบทางเดินหายใจเป็นหลักแล้ว หมอขอบอกว่าตอนนี้มีงานวิจัยหลายตัว บ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและตับได้ด้วย
ตัวรับบนผิวเซลล์ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อไวรัสโควิด-19 อาศัยอยู่ในร่างกายมีชื่อว่า ACE2 Receptor โดยปกติจะพบตัวรับชนิดนี้มากในปอดและเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ก่อนหน้านี้เราก็เลยสันนิฐานกันว่ามันน่าจะเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ในระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม วิทยาการแพทย์ปัจจุบันได้ค้นพบว่าตัวรับดังกล่าวยังพบมากในเซลล์เยื่อบุผิวทางเดินอาหารและเยื่อบุท่อน้ำดีด้วยเหมือนกัน
ปัจจุบันเรื่องนี้จึงได้รับการสันนิษฐานว่า หากเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เซลล์จะทำงานผิดปกติ เช่น การดูดซึม การรั่วซึมของสิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้าสู่เซลล์เพิ่มขึ้น
โดยอาการของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหารส่วนใหญ่ ได้แก่
อาการที่เกิดขึ้นในทางระบบทางเดินอาหารเหล่านี้มักแสดงก่อน 1-2 วันแรก หลังจากนั้นผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ หายใจหอบเจ็บปอด และตามด้วยอาการในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจรุนแรงใกล้เคียงกับอาการผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรง
มีสถิติหนึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีค่าระดับเอนไซม์ตับ (AST,ALT) ที่สูงผิดปกติ (ซึ่งพบได้ราว 14-57% ของผู้ป่วย) โดยมีระดับสูงขึ้นประมาณ 1-3 เท่าของค่าปกติ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ยังไม่ก่อให้เกิดอาการทางตับที่ชัดเจนนัก อีกทั้งค่าตับยังสามารถกลับเป็นปกติได้เองโดยไม่ต้องให้การรักษาจำเพาะ กรณีที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีโรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรังเดิมอยู่แล้ว ผู้ป่วยอาจมีความผิดปกติของค่าตับได้มากกว่าตัวเลข 1-3 ดังกล่าว และอาจทำให้มีอาการที่แย่ลงได้หลังรับเชื้อเช่นกัน
ปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเสียชีวิตจากตับวายที่เกิดจาก COVID-19 โดยตรง ฉะนั้นจึงยังยืนยันไม่ได้
สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันและผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นอกจากการเว้นระยะ หมั่นล้างมือแล้ว หมอยังมีขอแนะนำให้ปฎิบัติเพิ่มเติม ดังนี้
โรงพยาบาลรามคำแหงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการติดเชื้อในโรงพยาบาล เพื่อให้ทุกท่านเชื่อมั่นในสถานพยาบาลและรู้สึกเบาใจยิ่งขึ้นเมื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ