โรคลมชัก สาเหตุจาก “คลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ” อันตรายต่อทุกฝ่าย

February 23 / 2024

 

 

 

โรคลมชัก

อันตรายทั้งกับผู้ป่วย คนรอบข้าง สาเหตุจาก “คลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ”

 

 

 

 

พญ.สุธิดา เย็นจันทร์
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท
โรงพยาบาลรามคำแหง

 

 

อุบัติเหตุที่มีที่มาสาเหตุจาก “โรคลมชัก” ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นกับใครต่อใครก็ได้อันเนื่องมาจากความผิดปกติบางประการในตัวของผู้ป่วยเอง ซึ่งหากญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดได้ทราบข้อมูลความรู้เป็นอย่างดีแล้วก็เชื่อว่าจะช่วยลดการปัญหาที่น่าห่วงพร้อมกับป้องกันเรื่องน่าเศร้าดังที่นำมาถ่ายทอดไว้ในเบื้องต้นโดยข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคลมชักได้รับการถ่ายทอดจาก “พญ.สุธิดา เย็นจันทร์” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาทประจำ “โรงพยาบาลรามคำแหง” ซึ่งระบุว่า

 

 

 

โรคลมชักเป็นอาการที่เกิดจาก ?

 

 

 

  • โรคลมชักเป็นอาการที่เกิดจาก “ความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมอง” เช่น อาจจะมีจุดที่ไฟฟ้าในสมองช็อตหรือลัดวงจรพูดง่ายๆ ทำให้อาการชักเกิดขึ้นโดยจะเกิดอาการได้หลายแบบซึ่งบางรายที่มาหาคุณหมอก็มีอาการแค่เหมือนเหม่อกระพริบตาแล้วก็ไม่รับรู้โลกภายนอกแค่กระพริบตาหรือขยับเคี้ยวปากนิดหน่อยขณะที่บางคนก็รับรู้ตัวโดยยังมีสติรับรู้อยู่เพียงแต่ว่าควบคุมอาการกระตุกหรืออาการสั่นที่เกิดขึ้นไม่ได้ มีการกระตุกหรือสั่นเป็นจังหวะ

 

  • บางคนก็เดินพูดซ้ำๆ เบลอๆ หมุนไปหมุนมา หรือไม่ก็มีน้ำลายไหลอย่างรุนแรงหลายคนอาจเรียกโรคนี้ว่า “ลมบ้าหมู” ในกรณีที่มีอาการเกร็งชักกระตุก ชักทั้งตัว หมดสติ บางรายก็อาจมาจากอาการวูบล้มทันทีก็ได้

 

  • ซึ่งสาเหตุที่ชักจะมีหลายอย่าง จากปัจจัยทางสมองเองก็ได้โดยที่บางคนมีโรคความพิการทางสมองมาแต่กำเนิดหรือเป็นโรคทางพันธุกรรมมีประวัติครอบครัวมีอาการชักในบางรายมีเนื้องอกในสมอง หรือเคยมีเลือดออกในสมองมีแผลเป็นเนื้อสมองเกิดขึ้นเพราะสมองมีการพัฒนาการที่ผิดปกติหรือเกิดจากการติดเชื้อ มีลักษณะเนื้อสมองอักเสบหรือเป็นฝีในเนื้อสมองก็ได้

 

 

 

 

 

 

 

  • บางคนก็อาจเกิดจากมีพยาธิในเนื้อสมองก็มาด้วยในอาการชักได้ ส่วนบางรายที่ไม่มีความผิดปกติในเนื้อสมองโดยตรงแต่มีไฟฟ้าในสมองลัดวงจรก็เกิดอาการชัก หรืออาจเกิดจากการมีตัวกระตุ้น เช่น ภาวะที่ร่างกายเกิดอาการเครียด เพลียหรือเหนื่อยล้ามากเกินไปหรือตรากตรำ อดนอนติดต่อกันบางคนก็ติดต่อกันหลายคืน หรือการได้รับสารการกระตุ้น ,สารเสพติด ,แอลกอฮอล์หรือมียาบางตัวก่อให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาทระบบสมองก็ก่อให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน

 

 

  • ความอันตรายของอาการชักคือผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ไม่รู้สึกตัว จึงอาจจะเกิดภาวะอุบัติเหตุแทรกซ้อน เช่น กำลังทำอะไรอยู่บนที่สูงขณะเกิดอาการชักก็อาจล้มหรือพลัดตกลงมา หรือหากชักขณะว่ายน้ำก็จมน้ำได้ หรือถือของร้อน ของแหลมของมีคมก็เกิดอันตรายจากอุบัติเหตุตามมาได้...หรืออย่างกรณีที่เกริ่นนำในเบื้องต้นคือกรณีที่เกิดอาการชักขณะกำลังรับบทสารถีนั่นเอง

 

ชัดเจนเลยนะคะว่า อันตรายที่จะเกิดขึ้นจาก “โรคลมชัก” นั้นสามารถส่งผลถึงผู้อื่นรวมทั้งตัวผู้ป่วยเองก็ไม่พ้นด้วยเช่นกัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

ใช้เทคโนโลยี การแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย-รักษาอาการชัก 

 

 

เพื่อให้ได้ทราบถึงต้นตอของปัญหาอาการชักของผู้ป่วยอันจะนำไปสู่การบำบัดรักษาอย่างได้ผล “คุณหมอสุธิดา” ได้ให้ความกระจ่างว่าต้องมาซักประวัติ มาตรวจร่างกายกันว่ามีสาเหตุที่เป็นจากสภาพเนื้อสมองโดยตรงหรือเปล่า นอกเหนือจากนี้อาจจะต้องเจาะเลือดไปตรวจ และการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อดูลักษณะว่ามีคลื่นที่แสดงถึงอาการชักหรือไม่ และถ้าจำเป็นในบางรายก็ต้องได้รับการวินิจฉัยโดยการสแกนสมองไม่ว่าจะเป็นด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ซีทีสแกน CT Scan หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI Scan

 

 

 

 

 

 

 

โดยที่ในบางรายถ้าจำเป็นก็ต้องเจาะหลังเพื่อตรวจน้ำไขสันหลังร่วมด้วยค่ะส่วนการรักษานะคะถ้าเราตรวจพบสาเหตุที่ชัดเจน เช่นบางรายที่เป็นเนื้องอกในสมอง เป็นฝีในสมองก็อาจจำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัด แต่ส่วนใหญ่ในการควบคุมอาการชักจะเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยง มิให้เกิดภาวะเครียดหรือเหนื่อยล้าเกินไปดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอนอกเหนือจากนี้คือหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น สารเสพติดต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะพวกนี้เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการชัก ในบางรายที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคลมชักก็อาจต้องได้รับยารักษาซึ่งในกรณีนี้ผู้ป่วยควรรับประทานยารักษาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดยาเอง เพราะอาการชักสำหรับบางคนจะไม่มีอาการเตือนหากแต่เป็นขึ้นเฉียบพลันก็อาจก่อให้เกิดอันตรายแทรกซ้อนได้ค่ะ

 

 

 

คุณหมอยังได้สรุปให้ฟังถึงสิ่งที่ต้องคำนึงถึงสำหรับอาการชักก็คือการชักแต่ละครั้งจะก่อให้เกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับเซลล์สมองและในรายที่มีอาการชักซ้ำๆ หลายๆ ทีนั้นในระยะยาวก็จะเกิดผลเสียต่อสมองในเรื่องของความจำโดยทำให้ความจำถดถอยช้าลงอาจจะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงจนในที่สุดเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ !! ซึ่งยังไงก็เป็นเรื่องน่าห่วงทั้งสิ้นสำหรับผู้ที่ป่วยด้วยอาการชักอย่างที่ว่านี้เพราะเหตุเหล่านี้ทำให้ “คุณหมอสุธิดา” ขอฝากคำแนะนำมายังคนใกล้ชิดซึ่งมีภาระในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการชักโดยระบุว่า 

 

 

 

ที่สำคัญคือต้องเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องนะคะหลีกเลี่ยง หรือห้ามเด็ดขาดสำหรับการใช้ของแข็งไม่ว่าจะเป็นไม้ ตะเกียบ ซ้อน หรือส้อมไปงัดปากไม่ให้กัดลิ้น เพราะนั่นอาจทำให้เกิดอันตรายโดยเกิดการบาดเจ็บที่ลิ้น หรือใบหน้าได้ อีกอย่างที่ต้องระวังคือการสำลักหากเกิดอาการชักโดยมีเศษอาหารในปาก ให้พยายามเอาออกด้วยการจับนอนตะแคงเพื่อป้องกันไม่ให้เขาล้มแล้วก็ปล่อยสักพักเพราะปกติส่วนใหญ่อาการชักจะหยุดได้เองภายใน 1-2 นาทีแต่ถ้าอาการชักดูท่าจะยาวเกิน 5 นาทีก็ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลค่ะ

 

 

หลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการชักในรายที่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาต้อง

รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในความดูแลของแพทย์ 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/612

 

 

 

 

Premium Health package ผู้หญิง

ถึงเวลาดูแลสุขภาพอย่างใส่ใจ เราพร้อมดูแลคุณอย่างอบอุ่น

ราคา 3,990 บาท

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Platinum plus Check up สุภาพสตรี

เพราะร่างกายผู้หญิงซับซ้อนมากกว่าที่คิด ตรวจสุขภาพดูแลป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้แบบที่ต้องการ

ราคา 59,990 บาท

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Platinum Check up สำหรับกลุ่มสุภาพบุรุษ

เตรียมสุขภาพให้พร้อมสำหรับอนาคต ป้องกันความเสี่ยงจากโรคร้ายแรง

ราคา 30,990 บาท

บัตรกำนัลเงินสด Ramkhamhaeng Gift Card

"แทนความห่วงใย" & "ของขวัญเยี่ยมไข้" มอบสุขภาพดีเป็นของขวัญสุดพิเศษ ด้วยบัตรกำนัลเงินสด Ramkhamhaeng Gift Card

ราคา 1,000 บาท

แพ็กเกจฝึกแก้ไขเรื่องการพูด ในเด็กทีพบความผิดปกติทางภาษา

บำบัดรักษาแก้ไขและฟื้นฟูสมรรถภาพ ในเด็กทีมีความผิดปกติทางภาษาและการพูด

ราคา 800 บาท

คุณจะมีความสุขแค่ไหน ? ถ้าหลังจากนี้ไม่ต้องใส่แพมเพิสแล้ว

คุณจะมีความสุขแค่ไหน?.. ถ้าไม่ต้องใส่แพมเพิส

ราคา 10,000 บาท