นพ. พูนศักดิ์ เลาหชวลิต
อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ปัจจุบันความอ้วนได้กลายเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับการดูแลและรักษา เพราะโรคอ้วนสามารถก่อเกิดได้หลากโรค ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) นิยามคำว่า "โรคอ้วน" (Obesity) ไว้ว่า "เป็นภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันตามส่วนต่าง ๆ เกินกว่าปกติจนเป็นปัจจัยเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพเป็นความเจ็บป่วยและอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้"
โรคอ้วน (Obesity) เป็นภาวะน้ำหนักตัวเกินหรือสัดส่วนไขมันในร่างกายมากกว่าปรกติ ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุง (Metablic Syndrome) มักเป็นชนิดที่พบได้บ่อย แพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกายและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
หากตรวจพบอย่างน้อย 3 ใน 5 ข้อก็มีแนวโน้มเป็นโรคดังกล่าว
โดยเฉพาะบริเวณสะดือในท่ายืนเท้าทั้ง 2 ข้าง ห่างกัน 10 เซนติเมตร ช่วงหายใจออก
หากตรวจวัดจนพบว่าระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์นั้น มากกว่า หรือ เท่ากับ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะน้ำตาลในเลือดสูง นอกเหนือจากนี้แพทย์ยังต้องวัดค่าระดับไขมัน HDL Cholesterol ร่วมด้วย ซึ่งจำแนกตามเพศสภาพได้ดังต่อไปนี้
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทำให้คนอายุน้อย มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจนบางครั้งก็อาจหลงลืมออกกำลังกาย
มีการศึกษาพบว่า
หมายเหตุ โรคอ้วนทำให้เกิดภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน เซลล์ไขมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ตัวรับอินซูลินที่ผนังเซลล์ทำงานไม่ดี กลูโคสจะเข้าเซลล์ได้ไม่ดี ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดก็จะสูงขึ้น
ได้แก่ ยา Orlistat
การใช้ยารับประทานเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดมีส่วนช่วยยับยั้งการดูดซึมกลับของน้ำตาลที่ไต ทำให้ร่างกายสามารถขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด น้ำหนักตัว และแคลอรี่ในร่างกายก็ลดลงไปด้วย
เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด (ที่ไม่ใช่อินซูลิน) ยาฉีดเป็นยาที่มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากระบบทางเดินอาหาร ออกฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการช่วยให้ฮอร์โมนอินซูลินซึ่งผลิตจากตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันยาที่คล้ายฮอร์โมนดังกล่าวก็ออกฤทธิ์ยับยั้งความรู้สึกหิวในสมอง ลดทอนการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้นั้นรู้สึกอิ่มได้ด้วยฤทธิ์ของยา
ผลการศึกษาพบว่ายาที่คล้ายฮอร์โมนจากระบบทางเดินอาหารสามารถลดอุบัติการณ์การเกิดโรคหัวใจของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ด้วย หากใช้ยาอย่างสม่ำเสมอภายใต้การดูแลของแพทย์
แพทย์จะเริ่มให้ยาแก่ผู้ป่วยจากขนาดน้อย 0.6 มิลลิกรัม ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนค่อย ๆ เพิ่มเป็น 1.2 , 1.8 , 2.4 อย่างละ 1 สัปดาห์ ขนาดที่ให้สูงสุด 3 มิลลิกรัม โดยประเมินดูจากน้ำหนักตัวตั้งแต่เดือนแรกที่แพทย์ให้ได้ ถ้าน้ำหนักไม่ลดลงมากกว่า 4% ของน้ำหนักตัวเดิม แพทย์ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น การคุมอาหาร การออกกำลังกายร่วมในความดูแลของศูนย์ดูแลสุขภาพและน้ำหนัก
การรักษาโรคอ้วนและโรคเบาหวานมีแนวทางเดียวกันคือการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย ซึ่งช่วยเสริมการรักษาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดี หากทำเป็นอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น ช่วยลดปริมาณไขมันที่สะสมในช่องท้องและใต้ผิวหนังให้น้อยลงได้ แถมยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มากับความอ้วน และที่สำคัญช่วยให้เราสามารถลดหรือควบคุมน้ำหนักที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุด
แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด เปิดให้บริการที่ อาคาร 3 ชั้น 10 โรงพยาบาลรามคำแหง ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ทุกวัน โทร. 027439999 ต่อ 3040
อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ
อายุรกรรม, ต่อมไร้ท่อ
อายุรศาสตร์, อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อและ เมตาบอลิซึม
อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ