ผศ.ดร. สิทธา พงษ์พิบูลย์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และการออกกำลังกาย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
พญ.วลัยรัตน์ จริยะเศรษฐพงศ์
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ
เพียงเจาะเลือดส่งตรวจในห้องปฏิบัติการก็ทำให้เรารู้อะไรได้หลายอย่าง อย่างแรกก็คือความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) นอกจากช่วยรู้ว่ามีภาวะโลหิตจาง มีภาวะติดเชื้อมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือได้รับสารพิษแล้ว การตรวจนี้ยังรวมถึงภาวะขาดสารอาหารและระดับไขมันในเลือด ซึ่งช่วยแพทย์วินิจฉัยถึงภาวะไขมันในเลือดสูงได้
แพทย์สามารถดูระดับไขมันในเลือดจากค่าคอเรสเตอรอลซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ คอเรสเตอรอลตัวไม่ดี (LDL : Low-density Lipoprotein) ซึ่งถือว่าเป็น 'ไขมันตัวร้าย' และคอเรสเตอรอลตัวดี (HDL : High-density Lipoprotein) ซึ่งเป็นไขมันตัวพระเอกส่วนไขมันอีกชนิดหนึ่ง คือ “ไขมันไตรกลีเซอไรด์”
เมื่อระดับไขมันในเลือด (LDL) สูงสะสมจนหลอดเลือดอุดตัน ปรากฏการณ์ดังกล่าวย่อมเกิด
อ่านเพิ่มเติม: แผลเบาหวานที่เท้า ถ้าหากรักษาถูกวิธีก็ไม่จำเป็นต้องตัดขา
ผศ.ดร. สิทธา พงษ์พิบูลย์
ผู้ชำนาญการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ
ปอด และการออกกำลังกาย
นอกจากรับประทานยา ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรต้องดูแลตัวเองวิธีอื่นควบคู่อีกด้วย โดยการดูแลตัวเองก็มี 2 วิธีหลัก ๆ หนึ่งคือดูเรื่องการรับประทานอาหารเพื่อให้ระดับน้ำตาลไม่สวิงมาก อันที่ 2 ก็คือเรื่องของการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายถือว่าเป็นยาในการรักษาเบาหวานเลย เพราะว่าพอออกกำลังกายแล้วก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเขาดีขึ้น มันช่วยทำให้เซลล์ไวต่ออินซูลิน เนื่องจากอินซูลินเป็นตัวช่วยนำพาน้ำตาลเข้าไปในเซลล์ การคุมเบาหวานก็จะดีขึ้น น้ำตาลสะสมเฉลี่ยก็จะดีขึ้นโดยปริยาย
ยาที่รับประทานก็น้อยลง พอออกกำลังกายไปแล้วก็จะทำให้สมรรถภาพหัวใจแข็งแรงขึ้นและช่วยเพิ่มสมรรถนะทางกายอีกด้วย หากเกิดมีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจจะแข็งแรงขึ้น ทำให้ไขมันในเลือดลดลงควบคู่กับมีไขมันที่ดีเพิ่มขึ้น
การรักษาผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับไขมันในเลือดสูงแบ่งออกเป็น 3 กรณีมีตั้งแต่การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาโดยที่การควบคุมอาหารในผู้ป่วยเบาหวานหลักใหญ่ ๆ จะต้องรับประทานอาหารให้เหมาะสมเพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและได้ครบทุกสัดส่วนทั้งไขมันคาร์โบไฮเดรตโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และใยอาหาร
ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานควรจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดน้อยกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวมน้อยกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับไขมัน HDL ไขมันตัวดีในผู้ชายควรจะมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้หญิงควรจะมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และไขมันตัวที่สำคัญคือไขมัน LDL คอเลสเตอรอลควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ซึ่งหากจะควบคุมเบาหวานได้ดีก็ควรมาเช็คเลือด ตรวจระดับน้ำตาล ตรวจค่าน้ำตาลสะสม แล้วเช็คระดับไขมันในเส้นเลือดเป็นประจำอย่างน้อย 2 – 3 เดือนต่อครั้ง
อ่านเพิ่มเติม: ออกกำลังกาย ช่วยลดเสี่ยงโรคเบาหวานได้จริงหรือ?
ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และการออกกำลังกาย
อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ
อายุรศาสตร์, อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อและ เมตาบอลิซึม
อายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ