โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวานโดยตรง Diabetic neuropathy

January 06 / 2025

 

 

โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน

 

 

โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน

 

 

     โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยและก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างได้มาก โรคเส้นประสาทที่เกิดจากโรคเบาหวานก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความพิการและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะเป็นเบาหวานมานานและควบคุมโรคได้ไม่ดี ทั้งในเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2

 

โรคเหล่านี้เกิดได้กับเบาหวานทั้งสองชนิด

     บางรายอาจพบโรคเส้นประสาทในขณะที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยเบาหวานชนิดที่ 2 ก็ได้ เนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเบาหวานมากนักแต่เป็นโรคมานาน โดยอาการปวดเป็นอาการสำคัญของโรคเส้นประสาทนี้ ทว่าอาจไม่พบในผู้ป่วยทุกราย ดังนั้นกลไกดังกล่าวยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม รายงานวิจัยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาพบว่ากลไกทางระบบภูมิคุ้มกัน และการปรับตัวที่ผิดปกติของระบบประสาทมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินโรค

 

 


ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการปวดเรื้อรัง รักษาได้ยากและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น


 

 

โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน

 

โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน

     โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน (Diabetic Neuropathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนซึ่งเกิดจากภาวะเสื่อมของเส้นประสาททั้งในระยะก่อนเกิดเบาหวานจนถึงระยะท้าย ดังนั้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัดจึงสำคัญ โดยปัจจุบันสามารถรักษาตามอาการด้วยยาบรรเทาปวดควบคู่กับป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น อีกทั้งวิทยาการแพทย์สมัยใหม่ยังช่วยให้แพทย์เข้าใจกลไกลของโรคมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ให้แพทย์คิดค้นการรักษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพ

 

ชนิดของโรคเส้นประสาททืี่เกิดกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

     โรคเส้นประสาทเฉพาะที่ (Diabetic Neuropathy) ที่มีลักษณะพิเศษในผู้ป่วยเบาหวานคือ Diabetic Lumbosacral Radiculoplexus Neuropathy (DLRPN) หรือเป็นที่รู้จักในชื่ออื่น เช่น Diabetic Amyotrophy, Bruns Garland Syndrome หรือ Femoral-Sciatic Neuropathy

 

อาการของโรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน

  • ผู้ป่วยจะมีอาการชาหรือปวดเฉียบพลันบริเวณต้นขา ร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ quadriceps/iliopsoas ทำให้เดินไม่สะดวก
  • เมื่อตรวจร่างกาย จะพบว่า patellar reflex ลดลงหรือหายไป โดยอาการดังกล่าวจะคงอยู่เป็นเดือนแล้วค่อย ๆ ดีขึ้นได้เอง แต่อาจก่อให้เกิดความพิการหลงเหลืออยู่
  • ปัจจุบันแพทย์ยังเชื่อว่าโรคดังกล่าวเกิดจากปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ทำหลอดเลือดเล็กที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทดังกล่าวเกิดอุดตันและอักเสบ โดยงานวิจัยทางพยาธิวิทยาของเส้นประสาทพบว่า ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดโรคคือปฏิกิริยาอักเสบและเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte ล้อมรอบหลอดเลือด จนส่งผลให้เส้นประสาทนั้นตาย 

 

 


จึงมีการใช้ยากลุ่มสตีรอยด์ขนาดสูงหรือ intravenous immunoglobulin ในการรักษาผู้ป่วยโรคนี้ และพบว่าได้ผลดี แต่ยังไม่มีการศึกษาขนาดใหญ่ยืนยันในขณะนี้


 

 

 

โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน

 

 

โรคเบาหวาน

     โรคเบาหวาน (Diabetes) เป็นต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนอื่นมากมายซึ่งอันตรายอย่างมาก ดังนั้นหากผู้ป่วยเบาหวานควบคุมโรคไม่ดีพอจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้ โรคแทรกซ้อนที่ว่าอาจเกิดขึ้นกับส่วนใดของร่างกายก็ได้ และระบบประสาทก็เป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเบาหวานได้บ่อย

 

1.  อาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท

  • ผู้ป่วยจะสูญเสียการรับความรู้สึกซึ่งอาจเริ่มจากอาการชาตามปลายนิ้วและลุกลามต่อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ว่าร่างกายส่วนที่สูญเสียการรับรู้ความรู้สึกจะไปสัมผัสกับสิ่งที่ร้อน เย็นหรือได้รับบาดแผล ผู้ป่วยก็จะไม่รู้สึกตัวเลย
  • อาจเกิดความเสียหายที่เส้นประสาทส่วนกล้ามเนื้อตา ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานผิดปรกติ ผู้ป่วยอาจมองเห็นภาพซ้อน ไม่สามารถกลอกตาในบางทิศทางได้ และอาจมีอาการปวดหัวร่วม
  • เท้าเป็นอวัยวะของผู้ป่วยเบาหวานที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายที่สุด เนื่องจากผู้ป่วยต้องใช้เท้าเดินไปไหนมาไหน หากประสาทการรับรู้ที่เท้าสูญเสียไป หากเหยียบของมีคมและไม่รู้สึกตัว ก็ยิ่งส่งผลให้แผลของผู้ป่วยเบาหวานก็หายช้ากว่าคนปกติ

 

 


หากดูแลแผลได้ไม่ดีอาจลุกลามจนอักเสบและติดเชื้อ หากผู้ป่วยเบาหวานเกิดภาวะนี้ที่หลอดเลือดฝอยตรงเท้า และมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ผู้ป่วยก็มีโอกาสเกิดอาการปวดเส้นประสาท ปวดแสบปวดร้อนได้ หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่เท้าอยู่ตลอดเวลา


 

 

 

โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน

 

2.  อาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับระบบประสาทอัตโนมัติ

  • หากเป็นระบบประสาทส่วนที่ควบคุมทางเดินอาหาร จะส่งผลให้กระเพาะทำงานได้น้อย ทานอาหารน้อย อาเจียน แน่นท้องตลอดจนดูดซึมได้ไม่ดี
  • หากระบบประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมเรื่องระบบสืบพันธุ์หรือระบบปัสสาวะมีปัญหา จะเกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ กระเพาะปัสสาวะไม่ทำงาน มีปัสสาวะตกค้างอยู่ภายใน ทำให้เกิดการติดเชื้อและกระทบถึงระบบสืบพันธุ์ เช่น อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว (Erectile Dysfunction) 
     

 

สรุป

     เบาหวาน จะทำให้หลอดเลือดเล็กๆ ที่มาเลี้ยงเส้นประสาทบริเวณปลายมือปลายเท้าเกิดพยาธิสภาพ ก็จะทำให้เส้นประสาทนั้นไม่สามารถนำความรู้สึกต่อไปได้ เช่นรู้สึกชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือเมื่อผู้ป่วยมีแผล ผู้ป่วยก็จะไม่รู้ตัว และไม่ดูแลแผลดังกล่าว ประกอบกับเลือดผู้ป่วยมีน้ำตาลสูง จึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเหล่าเชื้อโรค และแล้วแผลก็จะเน่า และนำไปสู่ Amputation ในที่สุด ในผู้ชายอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (impotence)

     โดยปกติแล้วหากควบคุมอาการอยู่ก็จะไม่เกิดปัญหาอะไรกับตัวผู้ป่วย แต่สิ่งที่น่ากลัวคือเบาหวานเป็นจุดเริ่มของโรคแทรกซ้อนที่อันตรายมาก ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานควรให้ความสำคัญในการควบคุมอาการของโรคและระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี เพราะหากเกิดการผิดพลาดตรงจุดนี้จะทำให้โรคแทรกซ้อนจากเบาหวานโรคใดโรคหนึ่งหรือหลายโรคเกิดตามมาได้

 
 
 
 

โรคเส้นประสาทจากเบาหวานทำให้ปลายมือปลายเท้าชา และไม่รู้ตัวหากผู้ป่วยมีแผล และอาจทำให้แผลเน่าได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี