รศ.นพ. บัญชา ศันสนีย์วิทยกุล
อายุรศาสตร์โรคหัวใจ
เคยรู้สึกใจสั่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหรือไม่? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคหัวใจที่พบได้บ่อย ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่ทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น นั่นคือ “การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น หรือ Cryoablation”
การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น (Cryoablation) เป็นเทคนิคการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือ AF ที่ทันสมัย โดยเฉพาะภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว (AF : Atrial Fibrillation) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์จะเริ่มรักษาด้วยการใช้พลังงานความเย็น -40 ถึง -60 องศา เพื่อทำลายเนื้อเยื่อหัวใจส่วนที่ทำให้เกิดการส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ โดยแพทย์จะสอดสายสวนพิเศษเข้าไปในหัวใจ เพื่อนำความเย็นไปทำลายเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ทำให้เกิดการเต้นผิดจังหวะ ทำให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะได้ตามปกติ
ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ขณะที่เกิดภาวะหัวใจเต้นพลิ้วเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ในรายที่เป็นนานต่อเนื่อง การตรวจวินิจฉัยก็ไม่ยาก เพียงใช้มาตรฐานแผ่นเดียวก็สามารถวินิจฉัยได้ อย่างไรก็ตาม ในรายที่เกิดภาวะหัวใจเต้นพลิ้วในระยะสั้นเป็นวินาทีหรือเป็นนาที แพทย์จำเป็นต้องใช้เครื่องบันทึกการเต้นของหัวใจแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะบันทึกได้นาน 1-2 วัน
หากใช้เครื่องบันทึกการเต้นของหัวใจแบบ Patch Holter ซึ่งมีลักษณะเหมือนแผ่นพลาสเตอร์ปิดแผล ก็สามารถทำกิจกรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การเล่นกีฬา การอาบน้ำ โดยตัวเครื่องสามารถบันทึกข้อมูลได้นานถึง 14 วัน ปัจจุบันมีสมาร์ทวอช (Smartwatch) ที่สามารถตรวจ EKG ขณะมีอาการได้เช่นกัน
นอกจากนี้แพทย์อ่านตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiogram) ทดสอบหัวใจขาดเลือดด้วยการเดินสายพาน (exercise stress test) ตรวจเลือดเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุและโรคร่วมต่าง ๆ
สาเหตุของ AF มีหลากหลาย แต่พอจะแบ่งได้เป็น 4 อย่างใหญ่ ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจรักษา คือ
เช่น คาเฟอีน บุหรี่ แอลกอฮอล์ โสม อาหารเสริมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แต่ละคนมีความไวต่อสารกระตุ้นต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ดังนั้นสารกระตุ้นหัวใจเหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นพลิ้วหรือไม่ขึ้นกับปริมาณและระยะที่ได้รับเหตุปัจจัยร่วม และการตอบสนองของร่างกายของแต่ละคน
โรคประจำตัวสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นพลิ้วได้เช่นกัน เช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป โรคกระเพาะ ปอดอักเสบ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อ้วน เครียด พักผ่อนไม่พอ นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ
โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ สามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นพลิ้วได้เช่นกัน เช่น โรคลิ้นหัวใจไมตรัล โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา หัวใจล้มเหลว หลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
โรคระบบไฟฟ้าหัวใจผิดปรกติเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุนำใด ๆ ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่กำเนิด (พันธุกรรม) หรือมาเกิดขึ้นภายหลังก็ได้ (ความเสื่อม) ผู้ป่วยสูงอายุมีโอกาสเป็น AF มากกว่าคนอายุน้อยเนื่องจากความเสื่อมของระบบไฟฟ้าหัวใจ
จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นว่าสาเหตุของ AF มีมากมาย บางชนิดก็เป็นสาเหตุหลักหรือเป็นแค่ปัจจัยเสริมก็ได้แตกต่างกันไปในแต่ละคน จึงต้องวิเคราะห์ดูลงไปในรายละเอียด
อาการของภาวะหัวใจเต้นพลิ้ว (AF) จะเป็นผลจากการที่หัวใจเต้นเร็วและไม่สม่ำเสมอ เช่น ใจสั่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอด หน้ามืดจะเป็นลม อย่างไรก็ตามคนไข้ AF จำนวนหนึ่งจะไม่มีอาการใด ๆ แต่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายหรือมารับการรักษาด้วยโรคอื่น ๆ คนไข้ที่ไม่มีอาการก็อาจจะมาด้วยโรคแทรกซ้อนของ AF แทน เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวและหลอดเลือดสมองอุดตันจากลิ่มเลือดที่หัวใจ
มีแนวทางสำคัญสามข้อซึ่งจะต้องทำร่วมกันกันไปเสมอคือ
ผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นพลิ้ว แต่ละคนมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำจะยังไม่ต้องทานยาใด ๆ ก็ได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงและปานกลางจำเป็นต้องทานยาต้านเลือดแข็งตัว (oral anticoagulation) ข้อนี้ต้องทำการประเมินก่อนเสมอ
การลดความเสี่ยงต้องทำให้ดี หลายคนหายจากภาวะหัวใจเต้นพลิ้วหรืออาการดีขึ้นได้ด้วยการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น เป็นภาวะหัวใจเต้นพลิ้วและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือผู้ป่วยที่ต้องการรักษาที่ให้ผลดีในระยะยาว แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพิจารณาว่าผู้ป่วยรายใดเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้
“การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น” เป็นการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่มีข้อดีหลายอย่าง เนื่องจากมีความแม่นยำและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยจึงมีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปรกติไวขึ้น หากคุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจเพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
อายุรศาสตร์โรคหัวใจ