โรคลมแดด (Heat stroke) เพราะอากาศที่ร้อนมากอันตรายต่อทุกคน

April 11 / 2025

โรคลมแดด

 

 

     โรคลมแดดหรือที่ผู้คนต่างเรียกว่า 'ฮีทสโตรก' กลายเป็นภัยเงียบที่แฝงตัวมาพร้อมกับความร้อนแรงของแสงแดด ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมอุณหภูมิภายใน ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การรู้อาการของโรคและวิธีป้องกันก่อนหน้าร้อนจะมาถึงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากตอนนี้เราเริ่มรู้สึกว่าอากาศรอบ "ร้อนขึ้น" ก็เป็นสัญญาณที่เราต้องเตรียมตัวดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเรื่องไม่คาดฝัน

 

โรคลมแดด

     โรคลมแดด (Heatstroke) คือ ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป ซึี่งเกิดจากการสัมผัสกับอากาศที่ร้อนจัดหรือการออกกำลังกายเป็นเวลานานโดยที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ตามปกติ โดยอาการอาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาล่าช้าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและอันตรายต่อชีวิต

 

 

โรคลมแดด

 

 

สาเหตุของโรคลมแดด

สาเหตุที่สำคัญของโรคลมแดด แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

 

1.  การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง

     เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นและไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ตามปกติ เช่น เมื่อต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน และชื้นเป็นเวลา 2 หรือ 3 วันติดต่อกัน มักจะเกิดขึ้นบ่อยกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง

 

2.  การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก

     เมื่อออกกำลังกายหรือทำกิจรรมที่ใช้กำลังมาก โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีอากาศร้อนจัดมักเป็นเหตุทำให้เกิดโรคลมแดดได้ อย่างไรก็ตาม โรคลมแดดประเภทนี้อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อน

 

อาการของโรคลมแดด

อาการของโรคลมแดดเกิดขึ้นได้ในทันทีโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือน และอาการที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันออกไปแต่ละบุคคล โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

 

  • อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นถึง 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป 
  • ผิวหนังแดง เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูง
  • วิงเวียนศีรษะ มึนงง หน้ามืด หรือเป็นลมหมดสติ
  • หายใจถี่และตื้น หัวใจเต้นเร็ว
  • มีอาการปวดศีรษะตุบ ๆ คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการชัก
  • เป็นตะคริวหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง

 

 

 

โรคลมแดดโรคลมแดดโรคลมแดดโรคลมแดด

 

โรคลมแดดโรคลมแดด

 

การรักษาโรคลมแดด

การรักษาเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการลดอุณหภูมิร่างกายตามขั้นตอนต่อไปนี้

 

  • พาผู้ป่วยเข้ามาในร่มหรือในที่ที่มีเครื่องปรับอากาศและมีอุณหภูมิที่เย็น
  • ถอดเสื้อผ้าและคลายเครื่องแต่งกายที่รัดแน่นเกินไป
  • เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเย็นหรือใช้ถุงน้ำแข็งวางบริเวณศีรษะ ลำคอ รักแร้และขาหนีบ
  • ใช้สเปรย์น้ำเย็นพ่นหรือนำผู้ป่วยลงแช่ในอ่างอาบน้ำเย็นในระหว่างที่รอรถพยาบาล
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มกลุ่มนี้จะทำให้ความสามารถในการปรับอุณหภูมิของร่างกายสูญเสียไป
  • ไม่ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเย็น เพราะจะทำให้เกิดการหดเกร็งของกระเพาะอาหารได้

 

 

 

 

การป้องกันโรคลมแดด

โรคลมแดดสามารถป้องกันได้ ดังนี้

 

  • สวมใส่เสื้อผ้าโปร่ง ระบายลมได้ง่าย หากรู้ว่าต้องไปอยู่ในที่อากาศร้อนหรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก
  • ป้องกันตัวเองจากแสงแดดด้วยเครื่องแต่งกาย เช่น แว่นกันแดดหรือหมวก และการใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • ระวังเรื่องยาและปรึกษาแพทย์ว่ายาที่ใช้อยู่มีผลต่อการปรับอุณหภูมิของร่างกายหรือไม่
  • พยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักในที่อาการร้อนและถ่ายเทไม่สะดวก ในกรณีที่จำเป็น ให้ใช้เวลาในบริเวณดังกล่าวให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 


เมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะโรคอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาล่าช้าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้


 

 

แก้ไข

17/03/2565